ผลของนํ้ามันหอมระเหยกะเพราต่อการยับยั้งการเพิ่มจำนวนและ ทำลายไบโอฟิล์มของเชื้อ Candida albicans และผลการเสริมฤทธิ์ เมื่อใช้ร่วมกับยาไนสแตติน

Authors

  • ไกรินทร์ ไกรศรีวรรธนะ กลุ่มงานบริการเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ มหาวิทยาลัยมหิดล เลขที่ 259 หมู่ที่ 13 ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ 37000
  • จุฬาลักษณ์ นุชนนท์ กลุ่มงานบริการเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ มหาวิทยาลัยมหิดล เลขที่ 259 หมู่ที่ 13 ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ 37000
  • วันวิสาข์ แสนคมคาย กลุ่มงานบริการเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ มหาวิทยาลัยมหิดล เลขที่ 259 หมู่ที่ 13 ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ 37000
  • วงศ์วรุตม์ บุญญานุโกมล กลุ่มงานบริการเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ มหาวิทยาลัยมหิดล เลขที่ 259 หมู่ที่ 13 ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ 37000

Abstract

บทคัดย่อการรักษาโรคติดเชื้อราแคนดิดาในช่องปากโดยทั่วไปคือการใช้ยาต้านเชื้อราแผนปัจจุบัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะเชื้อดื้อต่อยาหรืออาการข้างเคียงจากยาที่รักษา การเลือกใช้สมุนไพรจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อาจช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาฤทธิ์ของน้ำมันหอมระเหยกะเพราในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนและทำลายไบโอฟิล์มของเชื้อ Candida albicans รวมทั้งผลการเสริมฤทธิ์เมื่อใช้ร่วมกับยาไนสแตตินวัสดุอุปกรณ์และวิธีการ: ทดสอบการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อ C. albicans จากน้ำมันหอมระเหยกะเพราโดยวิธีดิสค์ดิฟฟิวชั่นและไมโครบรอทไดลูชั่น ศึกษาการเสริมฤทธิ์ร่วมกับยาไนสแตตินโดยการวิเคราะห์ค่า FICI วิธีไทม์คิลถูกใช้ในการศึกษาระยะเวลาในการทำลายเชื้อ ขณะที่การศึกษารูปร่างของเซลล์โดยใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องกราด และสุดท้ายการศึกษาฤทธิ์ทำลายไบโอฟิล์มที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้วิธีย้อมด้วยสีคริสตัลไวโอเล็ตผลการทดลอง: น้ำมันหอมระเหยกะเพรามีฤทธิ์ในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อ C. albicans โดยมีค่า MIC และ MFC เฉลี่ยเท่ากับ 1.25 และ 1.75 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ตามลำดับ อีกทั้งยังพบว่าสามารถเสริมฤทธิ์การทำงานร่วมกับยาไนสแตตินโดยมีค่า FICI เท่ากับ 0.71 โดยน้ำมันหอมระเหยกะเพราสามารถทำลายเชื้อได้ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งเซลล์ที่ถูกทดสอบกับน้ำมันหอมระเหยมีรูปร่างเหี่ยวและหดตัวเล็กลงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม นอกจากนั้นน้ำมันหอมระเหยกะเพรายังมีความสามารถในการทำลายไบโอฟิล์มที่เชื้อสร้างขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมสรุป: น้ำมันหอมระเหยกะเพรามีศักยภาพในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนและทำลายไบโอฟิล์มของเชื้อ C. albicans และสามารถเสริมฤทธิ์การทำงานร่วมกับยาไนสแตติน ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนาต่อยอดต่อไปในอนาคตคำสำคัญ: Candida albicans, น้ำมันหอมระเหยกะเพรา ยาไนสแตติน ไบโอฟิล์ม การเสริมฤทธิ์

Downloads

Download data is not yet available.

Author Biographies

ไกรินทร์ ไกรศรีวรรธนะ, กลุ่มงานบริการเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ มหาวิทยาลัยมหิดล เลขที่ 259 หมู่ที่ 13 ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ 37000

เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปประจำห้องปฏิบัติการ

จุฬาลักษณ์ นุชนนท์, กลุ่มงานบริการเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ มหาวิทยาลัยมหิดล เลขที่ 259 หมู่ที่ 13 ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ 37000

นักวิทยาศาสตร์

วันวิสาข์ แสนคมคาย, กลุ่มงานบริการเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ มหาวิทยาลัยมหิดล เลขที่ 259 หมู่ที่ 13 ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ 37000

ผู้ช่วยวิจัย

วงศ์วรุตม์ บุญญานุโกมล, กลุ่มงานบริการเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ มหาวิทยาลัยมหิดล เลขที่ 259 หมู่ที่ 13 ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ 37000

อาจารย์ ดร.

Downloads

Published

2019-06-28

How to Cite

1.
ไกรศรีวรรธนะ ไ, นุชนนท์ จ, แสนคมคาย ว, บุญญานุโกมล ว. ผลของนํ้ามันหอมระเหยกะเพราต่อการยับยั้งการเพิ่มจำนวนและ ทำลายไบโอฟิล์มของเชื้อ Candida albicans และผลการเสริมฤทธิ์ เมื่อใช้ร่วมกับยาไนสแตติน. SWU Dent J. [Internet]. 2019 Jun. 28 [cited 2024 Nov. 18];12(1):51-64. Available from: https://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/11467

Issue

Section

บทวิทยาการ (Original articles)