การศึกษาเปรียบเทียบภาพคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อของกล้ามเนื้อทราพีเซียสบน ขณะปฏิบัติงานทางทันตกรรม ระหว่างทันตแพทย์ที่มีอาการและไม่มีอาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อหลังส่วนบน
Abstract
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาเปรียบเทียบภาพคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อของกล้ามเนื้อทราพีเซียสบน ขณะปฏิบัติงานทางทันตกรรม ระหว่างทันตแพทย์ที่มีอาการและไม่มีอาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อหลังส่วนบน วัสดุและวิธีการ: ทำการศึกษาในกลุ่มประชากรทันตแพทย์ในคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กลุ่มที่เคยมีอาการปวดกล้ามเนื้อหลังส่วนบน 6 คน และกลุ่มที่ไม่เคยมีอาการปวดกล้ามเนื้อหลังส่วนบนจำนวน 6 คน ทำการศึกษาโดยวัดภาพคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (EMG) ของกล้ามเนื้อทราพีเซียสบนด้านขวาขณะปฏิบัติงานขูดหินน้ำลาย แปลงข้อมูลเป็นค่าร้อยละการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อเปรียบเทียบกับค่าการหดตัวสูงสุด (Percent of maximal voluntary contraction) ทำการเปรียบเทียบข้อมูล โดยดูความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ผลการศึกษา: ภาพคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อของกล้ามเนื้อทราพีเซียสบนระหว่างทันตแพทย์ที่มีอาการและไม่มีอาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อหลังส่วนบนขณะปฏิบัติงานทางทันตกรรมที่ตำแหน่งเปอร์เซ็นต์ไทล์ที่ 10 50 และ 90 มีค่าไม่แตกต่างกัน สรุป: ภาพคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อของกล้ามเนื้อทราพีเซียสบนระหว่างทันตแพทย์ที่มีอาการและไม่มีอาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อหลังส่วนบนขณะปฏิบัติงานทางทันตกรรมมีค่าไม่แตกต่างกันคำสำคัญ : กล้ามเนื้อทราพีเซียสบน, กลุ่มอาการความผิดปกติของระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ, ภาพคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อDownloads
Download data is not yet available.
Downloads
How to Cite
1.
เตชะธนะวัฒน์ ส, ตังตระกูลไพศาล ธ. การศึกษาเปรียบเทียบภาพคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อของกล้ามเนื้อทราพีเซียสบน ขณะปฏิบัติงานทางทันตกรรม ระหว่างทันตแพทย์ที่มีอาการและไม่มีอาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อหลังส่วนบน. SWU Dent J. [Internet]. 2014 Sep. 18 [cited 2024 Dec. 22];5(1):77-85. Available from: https://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4558
Issue
Section
บทวิทยาการ (Original articles)
License
เจ้าของบทความต้องมอบลิขสิทธิ์ในการตีพิมพ์แก่วิทยาสาร โดยเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรแนบมาพร้อมบทความที่ส่งมาตีพิมพ์ ตามแบบฟอร์ม "The cover letter format" รวมทั้งต้องมีลายมือชื่อของผู้เขียนทุกท่านรับรองว่าบทความดังกล่าวส่งมาตีพิมพ์ที่วิทยาสารนี้แห่งเดียวเท่านั้น