ผลของการเติมซิลเวอร์ซีโอไลต์ต่อคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียของซีเมนต์กลาสไอโอโนเมอร์ชนิดดั้งเดิม
Abstract
วัตถุประสงค์ เพื่อประเมินคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียของซีเมนต์กลาสไอโอโนเมอร์ที่ผสมซิลเวอร์ซีโอไลต์ที่ปริมาณต่าง ๆ กัน วัสดุและวิธีการทดลอง กลุ่มการทดลองประกอบด้วย 7 กลุ่ม ตามปริมาณซิลเวอร์ซีโอไลต์ที่ผสมในส่วนผลของซีเมนต์กลาสไอโอโนเมอร์ ที่ปริมาณร้อยละ 1- 7 โดยน้ำหนัก กลุ่มควบคุมได้แก่ส่วนผงของซิลเวอร์ซีโอไลต์และซีเมนต์ที่ไม่มีส่วนของซิลเวอร์ซีโอไลต์ เตรียมชิ้นงานเป็นแผ่นวงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 มิลลิเมตร กลุ่มละ 3 ชิ้น วางบนจานอาหารเพาะเชื้อ เก็บที่อุณหภูมิ 37oC บริเวณที่เกิดการยับยั้งเชื้อประเมินจากความกว้างของวงแหวนใสที่เกิดขึ้นรอบชิ้นงาน ที่ 1 วัน และ 3 วัน การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยความกว้างของแต่ละกลุ่มการทดลองประเมินด้วยสถิติ 1-way ANOVA การเปรียบเทียบผลการยับยั้งเชื้อที่ระยะเวลา 1 วันและ 3 วันด้วยสถิติ pair T-test ผลการทดลอง ค่าเฉลี่ยระยะของการยับยั้งเชื้อของกลุ่มทดลองทุกความเข้มข้น อยู่ระหว่าง 6.16 – 9.16 มิลลิเมตร กลุ่มควบคุมกลาสไอโอโนเมอร์ ไม่เกิดวงแหวนใส ในขณะที่กลุ่มควบคุมซิลเวอร์ซีโอไลต์มีค่าอยู่ที่ 11.6 มิลลิเมตร เมื่อเพิ่มปริมาณซิลเวอร์ซีโอไลต์ พบว่า วงใสมีขนาดกว้างเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ การประเมินผลการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ 1 และ 3 วัน ไม่พบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ สรุปผล กลาสไอโอโนเมอร์ซีเมนต์ที่มีซิลเวอร์ซีโอไลต์ มีความสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้ แม้ว่าจะเติมที่ปริมาณเพียง 1% คำสำคัญ : คุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย กลาสไอโอโนเมอร์ซีเมนต์ อนุภาคนาโนเงิน บริเวณยับยั้งเชื้อDownloads
Download data is not yet available.
Downloads
How to Cite
1.
เอกวรพจน์ ป. ผลของการเติมซิลเวอร์ซีโอไลต์ต่อคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียของซีเมนต์กลาสไอโอโนเมอร์ชนิดดั้งเดิม. SWU Dent J. [Internet]. 2014 Sep. 19 [cited 2024 Dec. 22];6(1):12-24. Available from: https://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4560
Issue
Section
บทวิทยาการ (Original articles)
License
เจ้าของบทความต้องมอบลิขสิทธิ์ในการตีพิมพ์แก่วิทยาสาร โดยเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรแนบมาพร้อมบทความที่ส่งมาตีพิมพ์ ตามแบบฟอร์ม "The cover letter format" รวมทั้งต้องมีลายมือชื่อของผู้เขียนทุกท่านรับรองว่าบทความดังกล่าวส่งมาตีพิมพ์ที่วิทยาสารนี้แห่งเดียวเท่านั้น