ผลของการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงเสริม (Augmented Reality) เรื่องอะตอมและสมบัติของธาตุ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง อะตอมและสมบัติของธาตุ และเจตคติของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงเสริม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 จำนวน 43 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนศรีราชา สุ่มห้องเรียนด้วยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม ดำเนินการเก็บข้อมูลโดยใช้ แบบแผนการวิจัยแบบ One Group Pretest-Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงเสริม 7 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบวัดเจตคติต่อการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงเสริม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่บงเบนมาตราฐาน t-test for dependent sample และ t-test for one sample ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงเสริม หลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียน และ หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 2) เจตคติของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงเสริมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.07, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.70) คำสำคัญ : การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น, เทคโนโลยีเสมือนจริงเสริม ABSTRACT The purposes of this research aimed to study learning achievement on the topic of atomic structure and matter properties and attitudes of tenth gradestudents after learning using Inquiry-based learning (7Es) with Augmented Reality. The sample were 43 tenth grade students studied in the first semester of academic year 2020 at Sriracha school selected by cluster random sampling. The data was obtained by using One Group Pretest-Posttest Design Research Model. The research instruments were consisted of 1) 7 lesson plans of Inquiry-based learning (7Es) with Augmented Reality 2) learning achievement test and 3) questionnaires on attitude toward Inquiry base learning (7Es) with Augmented Reality. The data were analyzed by mean (M), standard deviation (SD), t-test for dependent sample and t-test for one sample. The results of the research were as follow: 1) The learning achievement of students after learning with Inquiry-based learning (7Es) with Augmented Reality had higher than those before learning and higher than 70% criterion at the .01 level of significant. 2) Students attitude toward Inquiry base learning (7Es) with Augmented Reality was at high level (Mean = 4.07, Standard deviation = 0.70) Keywords: Inquiry base learning (7Es), Augmented Reality
Downloads
Download data is not yet available.
Article Details
How to Cite
เจริญพันธ์ ณ., ชัยประเสริฐ ภ., & สิงห์ลพ ส. (2022). ผลของการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7Es) ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงเสริม (Augmented Reality) เรื่องอะตอมและสมบัติของธาตุ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์ ศรีนครินทรวิโรฒ, 22(2), 64–79. Retrieved from https://ejournals.swu.ac.th/index.php/jedu/article/view/13468
Section
บทความวิจัย (Research Articles)