การศึกษาแนวคิดคลาดเคลื่อนและการขาดความรู้ เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จังหวัดสิงห์บุรี โดยใช้ แบบทดสอบวินิจฉัยสี่ลำดับขั้น
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อแนวคิดคลาดเคลื่อนและการขาดความรู้ในเนื้อหาวิทยาศาสตร์ส่งผลต่อการเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างมีความหมายของผู้เรียน โดยงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบแนวคิดคลาดเคลื่อนและการขาดความรู้เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในจังหวัดสิงห์บุรีวิเคราะห์ตามขนาดของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ในจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเรียนเนื้อหาเรื่องแรงและกฎการเคลื่อนที่เสร็จสิ้นแล้วในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 262 คนซึ่งจะได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามขนาดของโรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก จำนวน 103, 91 ,และ 68 คน ตามลำดับแนวคิดเรื่องแรงและกฎการเคลื่อน ที่ที่ใช้ในงานวิจัยประกอบด้วย 8 มโนมติ ได้แก่ 1) แรง 2) การหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงที่ทำมุมกัน 3) กฎการเคลื่อนที่ข้อที่หนึ่งของนิวตัน 4) กฎการเคลื่อนที่ข้อที่สองของนิวตัน 5) กฎการเคลื่อนที่ข้อที่สามของนิวตัน 6) น้ำหนัก 7) กฎแรงดึงดูดระหว่างมวลของนิวตัน และ 8) แรงเสียดทาน เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบวินิจฉัยสี่ลำดับขั้นที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นผลการวิจัยพบว่า นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในจังหวัดสิงห์บุรีที่ได้เรียนรู้เนื้อหาเรื่องแรงและกฎการเคลื่อนที่มาแล้วยังมีแนวคิดคลาดเคลื่อนและขาดความรู้ในเรื่องดังกล่าวอยู่และเมื่อทำการเปรียบเทียบตามขนาดโรงเรียน พบว่านักเรียนแต่ละขนาดโรงเรียนมีแนวคิดคลาดเคลื่อนและขาดความรู้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คำสำคัญ : แบบทดสอบวินิจฉัยสี่ลำดับขั้น แรงและกฎการเคลื่อนที่ แนวคิดคลาดเคลื่อน การขาดความรู้ ABSTRACT Misconceptions and lack of knowledge in Science concepts have affected on students’ meaningful learning of science. The purposes of this research were to study and compare misconceptions and lack of knowledge about force and laws of motion of upper secondary school students in Sing Buri province analyzing comparatively on the size of the schools. The samples used in this study were262 10th grade students who were studying emphasizinglyin Science and Mathematicsareas. These students had already studied about force and laws of motion in the second semester of academic year 2014. Stratified random samplingwas applied to this research related to the size of the schools which were; 103 students from extra large-sizeschool, 91 students from medium-size schools and 68 students from a small-size schools, respectively.There were 8 concepts about force and laws of motion used in this research which were; 1) force 2) finding the resultant force between two forces acting at an angle 3) Newton's first law of motion 4) Newton's second law of motion 5) Newton's third law of motion 6) weight 7) Newton's law of gravitation and 8) frictional force. The research instrument used in this study was a four-tier diagnostics test developed by researcher. The results revealed thatstudents had misconceptions and lack of knowledge in all concepts of force and laws of motion. Besides, comparing to the size of schools, the result found that students from each size of the schools had different misconceptions and lack of knowledge about force and laws of motion at the level ofstatistical significance .05 Keywords : Four-Tier Diagnostic Test, Force and Laws of Motion, Misconceptions, Lack of Knowledge
Article Details
How to Cite
หอมฤทธิ์ ส., & พฤกษ์ประมูล ช. (2017). การศึกษาแนวคิดคลาดเคลื่อนและการขาดความรู้ เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จังหวัดสิงห์บุรี โดยใช้ แบบทดสอบวินิจฉัยสี่ลำดับขั้น. วารสารวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 11(2). Retrieved from https://ejournals.swu.ac.th/index.php/jre/article/view/9209
Section
บทความวิจัย (Research Articles)