การสร้างชุดทดลองวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ วิชางานช่างพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษา ปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม)

Main Article Content

ทวีศิลป์ พรมสุวรรณ์

Abstract

บทคัดย่อการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างชุดทดลองวงจรไฟฟ้ากระแสสลับในการเรียนการสอนภาคปฏิบัติ วิชางานช่างพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษาปีที่3 โดยใช้รูปแบบการวิจัย ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้ (1) สร้างและทดสอบประสิทธิภาพของชุดทดลองวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ โดยผู้วิจัยสร้างชุดทดลองวงจรไฟฟ้ากระแสสลับขึ้นมา แล้วปรับปรุงข้อบกพร่องต่างๆ จึงนำมาใช้การทดลองต่อวงจรซ้ำ 3 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลการทดลองที่ถูกต้อง (2) วิเคราะห์คุณภาพชุดทดลองและคู่มือการใช้ โดยผู้เชี่ยวชาญ และ (3) หาประสิทธิภาพของชุดทดลองวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ โดยใช้การทดลองแบบ one-group post –test only กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553ที่เรียนวิชางานช่างพื้นฐาน จำนวนรวม 30 คนผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้1. ชุดทดลองวงจรไฟฟ้ากระแสสลับที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 99.2/95.87 ซึ่งได้ผลมากกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ (90/90) แสดงว่าชุดทดลองวงจรไฟฟ้ากระแสสลับที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ2. ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้ากระแสสลับของนักเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 23.97เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์หรือคะแนนที่ตั้งไว้พบว่ามีค่าสถิติทีเท่ากับ 0.08 ที่นัยสำคัญ 0.93 แสดงให้เห็นว่า ค่าเฉลี่ยความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้ากระแสสลับของนักเรียนไม่แตกต่างจากเกณฑ์ที่ตั้งไว้ หรือกล่าวได้ว่าคะแนนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้ากระแสสลับของนักเรียนเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนด้วยชุดทดลองวงจรไฟฟ้ากระแสสลับอยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.81คำสำคัญ : ชุดทดลองวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ งานช่างพื้นฐาน

Article Details

How to Cite
พรมสุวรรณ์ ท. (2015). การสร้างชุดทดลองวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ วิชางานช่างพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษา ปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม). วารสารวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 8(1). Retrieved from https://ejournals.swu.ac.th/index.php/jre/article/view/6774
Section
บทความวิจัย (Research Articles)