ประสิทธิผลของการใช้สื่อการสอนเรื่องการดูแลมารดาหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย (EFFECTIVENESS OF THE DEVELOPED EDUCATIONAL MEDIA ON THE POSTPARTUM CARE KNOWLEDGE ACCORDING TO THE THAI TRADITIONAL MEDICINE METHODS)

Abstract

ศาสตร์การแพทย์แผนไทยเป็นองค์ความรู้ด้านสุขภาพที่มีประสิทธิภาพในการดูแลมารดาหลังคลอด การให้ความรู้แก่หญิงตั้งครรภ์ให้ทราบถึงวิธีการและประโยชน์ของศาสตร์ดังกล่าวจึงมีความสำคัญ แต่ปัจจุบันยังไม่มีสื่อการสอนที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและความพึงพอใจจากหญิงตั้งครรภ์ในด้านนี้ งานวิจัยแบบทดลองขั้นต้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบประสิทธิผลของการใช้สื่อการสอนวิดีทัศน์เรื่องการดูแลมารดาหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ทำการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบตามความสะดวก ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์แรกที่มารับบริการที่หน่วยฝากครรภ์ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 100 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามวัดความรู้และแบบสอบถามประเมินความพึงพอใจที่มีต่อสื่อการสอนที่ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน ผลที่ได้พบว่า คะแนนความรู้เฉลี่ยเกี่ยวกับวิธีการขั้นตอนและประโยชน์ของการดูแลมารดาหลังคลอดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยของอาสาสมัครภายหลังดูสื่อการสอนมากกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนดูอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) และคะแนนความรู้เฉลี่ยของอาสาสมัครที่มีระดับการศึกษาและรายได้ต่างกัน พบว่าไม่มีความแตกต่างกันทั้งก่อนและหลังดูสื่อการสอน นอกจากนี้อาสาสมัครประเมินความพึงพอใจที่มีต่อสื่อการสอนในระดับที่ให้การยอมรับ สรุปได้ว่าสื่อที่ได้มีประสิทธิภาพและบุคลากรทางการแพทย์จึงสามารถใช้สื่อการสอนนี้ไปพัฒนาความรู้ให้กับหญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการหน่อยฝากครรภ์ต่อไปได้ คำสำคัญ: การแพทย์แผนไทย  สื่อการสอน  มารดาหลังคลอด  การผดุงครรภ์  เทคโนโลยีการศึกษา The Thai traditional medicine (TTM) is reported for its effectiveness on health promotion for postpartum women. Giving knowledge to pregnant women on the methods and benefits of TTM is important to make them awareness and interesting on this health care methods. Unfortunately, there is no accepted and effective educational media available in antenatal care unit of local hospitals in Thailand. This pre-experimental study aimed to investigate the effectiveness of the developed educational media on the methods and benefits of TTM. One-hundred of the first pregnant women who came to visit the Antenatal Care unit, Sunpasitthiprasong Hospital, Ubon Ratchathani province were convenience sampled to participate in this study. The study tools were the knowledge questionnaire on the methods and benefits of TTM and satisfaction questionnaire toward the developed educational media which were reviewed and validated by 3 experts. Results revealed that the participants’ average score on TTM knowledge after attending the developed educational media was significant higher than pre-test (p<0.05). In addition, the participants’ average knowledge scores were no significant difference between groups on education and income levels. Last, the average participants’ satisfaction scores indicated that they were satisfied on the developed educational media. In conclusion, the developed educational media on TTM was effective and acceptable to participants that can further use to educate pregnant women in antenatal care units. Keywords: Thai traditional medicine, Educational media, Postpartum, Midwifery, Educational technology