การพัฒนารูปแบบการสอนแบบเน้นประสบการณ์ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะด้านการศึกษาพิเศษ สำหรับนักศึกษาครู
Keywords:
รูปแบบการสอน, การเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์, การศึกษาพิเศษAbstract
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนฯ 2) สร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการสอนฯ 3) ทดลองใช้รูปแบบการสอนฯ 4) ประเมินและปรับปรุงรูปแบบการสอนฯ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักศึกษาครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จำนวน 31 คน ที่ได้จากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการสอนฯ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบทีแบบไม่อิสระ ผลการศึกษา สรุปได้ดังนี้ 1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า ปัญหาและความต้องการในการส่งเสริมสมรรถนะด้านการศึกษาพิเศษ สำหรับนักศึกษาครู โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และสมรรถนะด้านการศึกษาพิเศษที่ความสำคัญและจำเป็นสำหรับนักศึกษาครู ได้แก่ ความรู้เกี่ยวกับการศึกษาพิเศษและการศึกษาแบบเรียนรวม เด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ เทคนิคการสอนในชั้นเรียนรวม การจัดการพฤติกรรมในชั้นเรียนรวม การปรับเปลี่ยนเพื่อการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม และบริการสนับสนุนเพื่อการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม และแนวทางการพัฒนารูปแบบการสอนควรมุ่งเน้นการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ 2. รูปแบบการสอนฯ ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ คือ แนวคิดพื้นฐาน หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา ขั้นตอนการจัดการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผล พัฒนาขึ้นตามแนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ 5 ขั้นตอน คือ ขั้นประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรม ขั้นการฝึกปฏิบัติ ขั้นการสะท้อนความคิด ขั้นสรุปความคิดรวบยอด และขั้นการทดลองในสถานการณ์ใหม่ และผลการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการสอนฯ พบว่า มีระดับความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนฯ พบว่า สมรรถนะด้านการศึกษาพิเศษ สำหรับนักศึกษาครู หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และความพึงพอใจของนักศึกษาครูที่มีต่อรูปแบบการสอนฯ พบว่า มีระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด และ 4. รูปแบบการสอนฯ มีระดับคุณภาพในด้านความเป็นประโยชน์ ด้านความเป็นไปได้ ด้านความเหมาะสม และด้านความถูกต้อง อยู่ในระดับมากที่สุดDownloads
References
กิตติคม คาวีรัตน์. (2553). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 2(2), 108-121.
ชบา พันธุ์ศักดิ์. (2550). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเชิงประสบการณ์และการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยการร่วมงานอย่างร่วมรู้สึกระหว่างผู้ปกครองและครูเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตสำหรับเด็กปฐมวัย. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. [วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย].
ต้องชนะ หมั่นบรรจง และคณะ. (2565). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงประสบการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของนักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย. วารสารร้อยแก่นสารวิชาการ, 7(4), 60-81.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). หลักการวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวิริยาสาส์น.
ประภาวรรณ สมุทรเผ่าจินดา. (2564). ผลการใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เน้นกิจกรรมเป็นฐานเพื่อพัฒนาสมรรถนะการใช้เทคโนโลยีในการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครูประจำศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์, 36(3), 210-220.
ปัณณิศา ไชยลือชา. (2560). การพัฒนารูปแบบการเขียนภาษาอังกฤษแนวคิดที่สมดุลสำหรับภาษานักเรียนชั้นปีที่ 6. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์, 11(1), 78-89.
พงศธร สุกิตญาณ. (2563). การพัฒนารูปแบบการสอนเพศศึกษาโดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้เชิงประสบการณ์และการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการสอนเพศศึกษาให้กับนักเรียนครู. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ, 12(3), 150-159.
มาเรียม นิลพันธุ์. (2558). วิธีวิจัยทางการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 9). นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ยุพิน บุญประเสริฐ. (2565). การพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะเพื่อการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้โรงเรียนจัดการเรียนรวม. [วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยพะเยา].
รัตนะ บัวสนธ์. (2565). การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ราชกิจจานุเบกษา. (2562). พระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562. สืบค้นจาก https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/057/T_0054.PDF.
รุจิระชัย เมืองแก้ว และคณะ. (2559). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานบนฐานของการวิจัยที่สร้างเสริมสมรรถนะด้านการวิจัยของนิสิตพยาบาล. วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล, 22(2),74-92.
วรรณี เจตจำนงนุช และคณะ. (2560). มาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ. วารสารวิธีวิทยาการวิจัย, 30(2), 161-186.
วิรัตน์ สุทัศน์ และสาธร ทรัพย์รวงทอง. (2561). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะของครูการศึกษาพิเศษในโรงเรียนเฉพาะความพิการกลุ่ม 5 สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ใน วรรณี ศุขสารท (บ.ก.), The 13th RSU National Graduate Research Conference.
การประชุมนำเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษาครั้งที่ 13 ประจำปีการศึกษา 2561 (หน้า 1902-1916). บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต.
https://rsujournals.rsu.ac.th/index.php/rgrc/article/view/743/511.
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ. (2564). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ.
สุธาทิพย์ สังข์แก้ว. (2560). ความต้องการในการพัฒนาตนเองของครูในสถานศึกษาที่จัดการศึกษาสำหรับผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสกลุ่มที่ 2 สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. [งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา].
อนุชา ภูมิสิทธิพร และคณะ. (2567). การพัฒนาหลักสูตรเสริมสร้างศักยภาพด้านการวิจัยทางการศึกษาพิเศษสำหรับครู ในโรงเรียนที่จัดการศึกษาแบบเรียนรวม. วารสารการศึกษาและนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 4(1), 97-112.
อิทธิพัทธ์ สุวทันพรกูล. (2562). การวิจัยทางการศึกษา: แนวคิดและการประยุกต์ใช้. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อิสริญญา ฉิมพลี. (2560). การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพบุคลากรครูโรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยาด้านการวิจัยด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม. [วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา].
Bessarab, A., Antonenko, I., Turubarova, A., Smoliak, V., & Morenko, O. (2023). Inclusive education: strategies and methods of implementation in the context of modern pedagogy. Brazilian Journal of Education, Technology and Society (BRAJETS), 16(2),
-177.
Florian, L. (2014). The SAGE Handbook of Special Education. (2nd ed.). London, UK: SAGE Publications.
Kolb, D.A. (1984). Experiential Learning: experience as the source of learning and development. Englewood Cliff, N.J.: Pretice – Hall.
Stufflebeam, D. L., & Shinkfield, A. J. (2007). Evaluation theory, models, and applications. San Francisco, CA: Jossey-Bass.