แรงจูงใจในการเล่นกีฬาฟุตซอลของนักกีฬาฟุตซอลหญิง ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 38 ตรังเกมส์
Abstract
การวิจัยครั้ง นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาแรงจูงใจในการเล่นกีฬาฟุตซอลของนักกีฬาฟุตซอลหญิง ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครัง้ ที่ 38 ตรังเกมส์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักกีฬาฟุตซอลที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งนี้ จำนวน 144 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมัน่ เท่ากับ .91 วิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่านักกีฬาฟุตซอลหญิงโดยรวม มีแรงจูงใจในการเล่นฟุตซอล ด้านเกียรติยศชื่อเสียง ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเองและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ด้านความรักความถนัดและความสนใจ ด้านรายได้และผลประโยชน์ และด้านโอกาสที่จะได้รับความก้าวหน้าในอนาคต โดยรวมอยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.89, 3.78, 3.67, 3.65 และ 3.63 ตามลำดับนักกีฬาฟุตซอลหญิงที่มีประสบการณ์ในการเล่นฟุตซอลน้อยกว่า 1 ปี มีแรงจูงใจในการเล่นฟุตซอลด้านเกียรติยศชื่อเสียง ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเองและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ด้านความรักความถนัดและความสนใจ และด้านโอกาสที่จะได้รับความก้าวหน้าในอนาคต โดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.93, 3.82, 3.77, และ 3.43 ตามลำดับ สำหรับด้านรายได้และผลประโยชน์ มีแรงจูงใจอยู่ในระดับปานกลางมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.34นักกีฬาฟุตซอลหญิงที่มีประสบการณ์ในการเล่นฟุตซอล 1 - 3 ปี มีแรงจูงใจในการเล่นฟุตซอล ด้านเกียรติยศชื่อเสียง ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเองและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ด้านรายได้และผลประโยชน์ด้านความรักความถนัดและความสนใจ และด้านโอกาสที่จะได้รับความก้าวหน้าในอนาคต โดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.88, 3.78, 3.71, 3.71 และ 3.60 ตามลำดับนักกีฬาฟุตซอลหญิง ที่มีประสบการณ์ในการเล่นฟุตซอลมากกว่า 2 ปี ขึ้นไป มีแรงจูงใจในการเล่นฟุตซอล ด้านเกียรติยศชื่อเสียง ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเองและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ด้านรายได้และผลประโยชน์ ด้านโอกาสที่จะได้รับความก้าวหน้าในอนาคต และด้านความรักความถนัดและความสนใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.88, 3.77, 3.71, 3.69 และ 3.63 ตามลำดับDownloads
Published
2012-06-22
Issue
Section
Research