วารสารนิติสาร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
https://ejournals.swu.ac.th/index.php/ll
<p style="font-weight: 400;"><strong>วัตถุประสงค์</strong></p> <ol> <li>เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนคณาจารย์ นักวิชาการ และนิสิตคณะสังคมศาสตร์ <br />หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต รวมถึงผู้สนใจทั่วไปได้เผยแพร่ผลงานวิชาการ</li> <li>เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการด้านนิติศาสตร์หรือความรู้ที่เกี่ยวข้องกับทางนิติศาสตร์ <br />ซึ่งมีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจและมีคุณค่าทั้งในด้านทฤษฎีและด้านปฏิบัติ <br />ในรูปแบบของวารสารทางวิชาการ</li> <li>เพื่อสร้างสรรค์ พัฒนา และเป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการและวิทยาการวิจัยใหม่ทางด้านนิติศาสตร์</li> <li>เพื่อเป็นเอกสารประกอบการศึกษาค้นคว้า การอ้างอิง ตลอดจนแนวทางการพัฒนาของกฎหมาย</li> </ol> <p style="font-weight: 400;"><strong>กำหนดการตีพิมพ์</strong></p> <p style="font-weight: 400;">วารสารนิติสาร มีกำหนดการตีพิมพ์ปีละ 2 ฉบับ ราย 6 เดือน ดังนี้</p> <ul> <li>ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม ถึง มิถุนายน</li> <li>ฉบับที่ 2 เดือนกรกฎาคม ถึง ธันวาคม</li> </ul> <p style="font-weight: 400;"><strong>ประเภทของผลงานทางวิชาการที่รับตีพิมพ์</strong></p> <p style="font-weight: 400;">วารสารนิติสาร จะพิจารณารับตีพิมพ์ผลงานที่มีลักษณะดังต่อไปนี้</p> <ol> <li>บทความวิชาการ</li> <li>บทความวิจัย</li> </ol> <p style="font-weight: 400;"><strong>ลักษณะการประเมินบทความ</strong></p> <p style="font-weight: 400;"><strong> </strong>บทความวิชาการและบทความวิจัยทุกเรื่องจะต้องผ่านการประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 3 ท่าน ที่กองบรรณาธิการคัดเลือกและพิจารณาเห็นว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาวิชาของเนื้อหาที่นำเสนอในบทความ และการประเมินดังกล่าวเป็นการประเมินลับทั้งสองทาง (Double-blinded peer review)</p>en-USวารสารนิติสาร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ3056-9109การชี้ขาดข้อพิพาทเกี่ยวกับการชำระเงินตามสัญญาก่อสร้างในประเทศไทย
https://ejournals.swu.ac.th/index.php/ll/article/view/16989
<p>การชำระเงินตามสัญญางานก่อสร้างให้ตรงเวลาเป็นหัวใจของโครงการก่อสร้าง ปัจจุบันปัญหาการไม่ชำระเงินตามสัญญางานก่อสร้างหรือการชำระล่าช้าเป็นเพียงเรื่องของการผิดสัญญาธรรมดาเท่านั้น ซึ่งจะต้องดำเนินการบังคับโดยวิธีการทางศาลหรืออนุญาโตตุลาการที่ใช้ระยะเวลายาวนาน พฤติกรรมการไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่นนี้กลายมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของวงการก่อสร้างและสร้างผลเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก หลายประเทศแก้ปัญหาโดยนำกฎหมายเกี่ยวกับการชำระเงินตามสัญญางานก่อสร้างมาใช้โดยเฉพาะ ซึ่งมีสาระสำคัญ เช่น การชำระเงินตามความก้าวหน้าของงาน (Progress Payment) การห้ามเงื่อนไขการชำระเงินที่ขึ้นอยู่กับการชำระเงินอื่น (Pay when Paid) และกระบวนการระงับข้อพิพาทโดยการชี้ขาด (Adjudication) ซึ่งสถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) ได้มีการยกร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการระงับข้อพิพาทอันเกี่ยวกับการชำระเงินตามสัญญางานก่อสร้าง พ.ศ. ... เสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามลำดับขั้นตอน แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้ถูกเสนอต่อไปด้วยเหตุผลและความจำเป็นที่จะต้องทบทวนการตราร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้รอบคอบ ทำให้ปัญหาต่าง ๆ ในปัจจุบันยังจำเป็นต้องมีการแก้ไขต่อไป จากการศึกษาพบว่า UNCITRAL ได้มีการพิจารณาเรื่องการชี้ขาดข้อพิพาท ในร่างข้อบัญญัติต้นแบบของการระงับข้อพิพาทโดยฉุกเฉินแบบพิเศษ (Draft UNCITRAL Model Clauses on Specialised Express Dispute Resolution (SPEDR)) ซึ่งมีประเด็นที่สอดคล้องกับร่างกฎหมายดังกล่าว ผู้เขียนจึงมีข้อเสนอแนะสำหรับประเทศไทย คือ การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการชี้ขาดข้อพิพาท เช่น การกำหนดเรื่องอนุญาโตตุลาการแบบเร่งด่วน และกฎหมายที่จะใช้กำหนดเรื่องการชี้ขาด การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการระงับข้อพิพาทอันเกี่ยวกับการชำระเงินตามสัญญางานก่อสร้าง พ.ศ.... ตามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือการเสนอกฎหมายโดยตรงโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย</p>โชคชัย เนตรงามสว่างมณฑล อรรถบลยุคล
Copyright (c) 2025 วารสารนิติสาร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2025-06-302025-06-3021128ประเด็นและการบังคับใช้พระราชบัญญัติความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า
https://ejournals.swu.ac.th/index.php/ll/article/view/16697
<p>This study aims to examine and analyze the implementation of product liability laws, specifically the Lemon Law, in foreign countries, and assess the feasibility of adapting such laws for use in Thailand. This law focuses on protecting consumers from defective or substandard products that may negatively impact safety and quality of life. It grants consumers the right to request refunds, repairs, or replacements when defects are found that cannot be rectified.</p> <p>Implementing the Lemon Law in Thailand would help reduce the imbalance between consumers and manufacturers, as consumers would be protected from substandard or technically problematic products after purchase, without needing to prove the fault of the manufacturer or seller. Additionally, it would promote fair competition in the marketplace.</p> <p>This study also analyzes the benefits and limitations of applying this law in Thailand, along with recommendations for improving existing consumer protection laws to make them more comprehensive and effective. The aim is to ensure consumers are adequately protected from low-quality or unsafe products in the Thai market. Furthermore, the study explores measures to amend and enhance the Product Liability Act (2008) to align it with current laws and circumstances. The comparison of legal approaches from other countries will also help propose the best practices for adequately protecting consumers and promoting fairness in commercial transactions.</p>Warakorn Thinwongphang
Copyright (c) 2025 วารสารนิติสาร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2025-06-302025-06-30212950การใช้มาตรการทางจริยธรรมควบคุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา
https://ejournals.swu.ac.th/index.php/ll/article/view/16760
<p>การศึกษาเรื่องการใช้มาตรการทางจริยธรรมควบคุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา มีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเรื่องการใช้มาตรการควบคุมการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติทางจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนของสหรัฐอเมริกา และเพื่อนำมาเปรียบเทียบเรื่องการควบคุมการการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติมาตรการทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของสมาชิกสภาผู้แทนของประเทศไทย</p> <p>มาตรการทางจริยธรรมเป็นเรื่องที่นานาประเทศให้ความสำคัญและถือเป็นมาตรฐานสากล โดยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมนั้นได้บัญญัติไว้ในกฎหมายในระดับรัฐธรรมนูญและกฎหมายระดับรองทั้งของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้ศึกษาได้ค้นคว้า รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา (Constitution of the United States) และประมวลจริยธรรมของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ (Code of Ethics for Government Service 1958.) ส่วนประเทศไทย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ. 2561</p> <p> ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการกำหนดโทษที่ชัดเจน และศาลสูงสุดสูงสุด (Supreme Court) ศาลเดียวเป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยพิจารณาคดีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ส่วนของประเทศไทยผู้ที่มีอำนาจในการวินิจฉัยพิจารณาคดีคือ ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกา และประธานศาลฎีกาแต่งตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระ ซึ่งอำนาจดังกล่าวได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ</p> <p>รัฐธรรมนูญและประมวลจริยธรรมของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ (Code of Ethics for Government Service 1958) ของประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ได้ใช้คำว่า“จริยธรรม”ส่วนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ. 2561</p>Mr.Pongsak Mongkolrat
Copyright (c) 2025 วารสารนิติสาร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2025-06-302025-06-30215169แนวคิดและประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับการกำหนดวันและเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประเทศไทย
https://ejournals.swu.ac.th/index.php/ll/article/view/16685
<div><span lang="TH">ปัจจุบันกฎหมายได้กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพุทธศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา และได้กำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาอื่นนอกจากเวลา 11.00 ถึงเวลา 14.00 น. และเวลา 17.00 ถึงเวลา 24.00 น. การที่กฎหมายกำหนดวันและเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ดังกล่าวข้างต้นก่อให้เกิดปัญหาเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ บทความนี้ได้นำเสนอแนวคิดและประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับการกำหนดวันและเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการวิเคราะห์ถึงความเหมาะสมในเรื่องดังกล่าวต่อไป โดยได้ดำเนินการค้นคว้าข้อมูลจากเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง</span></div>เบญญาดา พรมวงศ์รศ.ดร.วิวรรธน์ ดำรงค์กุลนันท์
Copyright (c) 2025 วารสารนิติสาร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2025-06-302025-06-302171114ปัญหาในการดำเนินคดีจราจรชั้นพนักงานสอบสวน กรณีผู้ต้องหาเป็นบุคคลในครอบครัวของผู้เสียหาย
https://ejournals.swu.ac.th/index.php/ll/article/view/16404
<p><strong>บทคัดย่อ</strong></p> <p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีจราจรชั้นพนักงานสอบสวนในประเทศไทย และมลรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (2) วิเคราะห์ปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีจราจรทางบกชั้นพนักงานสอบสวนกรณีผู้ต้องหาเป็นบุคคลในครอบครัวของผู้เสียหาย (3) เสนอแนะแนวทางการปรับปรุงกฎหมายที่ใช้ในการดำเนินคดีจราจรในประเทศไทย</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า (1) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของมลรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้บัญญัติเกี่ยวกับการกำหนดคนกลางซึ่งเป็นบุคคลในกระบวนการยุติธรรมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติ ทนาย และพนักงานอัยการ เป็นคนกลางและเป็นผู้ให้คำปรึกษาในการดำเนินการทางกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองหรือป้องกันการยุติความเป็นครอบครัวไว้โดยเฉพาะ (2) ประเทศไทยยังไม่มีการบัญญัติแนวทางการดำเนินคดีจราจรทางบกกรณีผู้ต้องหาเป็นบุคคลในครอบครัวของผู้เสียหายไว้เป็นการเฉพาะ และไม่มีกฎหมายอื่นที่สามารถนำกระบวนการยุติธรรมทางเลือกมาปรับใช้กับกรณีได้ (3) เสนอแนะให้มีการเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 มาตรา 39 วรรคสอง โดยเพิ่มคำว่า ยกเว้นคดีจราจรทางบก และเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562</p> <p><strong>คำสำคัญ</strong> คดีจราจร ไกล่เกลี่ย ครอบครัวของผู้เสียหาย</p> <p><strong>Abstract</strong></p> <p><strong> </strong>The objectives of this research are: (1) to study the laws related to the prosecution of road traffic cases at the Police inquiry level in Thailand and New York State (USA). (2) to analyze the laws and compare the legal measures of Thailand and New York State (USA). (3) to provide guidance on the suggested guidelines for improving the laws used in traffic prosecutions in Thailand.</p> <p>The results of the study show that (1) The Criminal Procedure Code of the State of New York (USA) provides provisions regarding the preservation of the family institution. By designating a mediator who is a person in the judicial process, whether a Police officer, Probation officer, Attorney and Prosecutor to serve as an intermediary and counselor in legal proceedings for the specific purpose of protecting or preventing the termination of family relationships. (2) Thailand has not yet established specific guidelines for prosecuting road traffic cases if the offender is a family member of the victim. And there is no other law that can apply the alternative justice process to the case. (3) Suggestions to amend the Dispute Mediation Act, B.E. 2019 in 2 topics 1. In section 39, paragraph 2, by adding the word Except for road traffic cases 2. add Section 291 of the Criminal Code to the list at the end of the Dispute Mediation Act, B.E. 2019.</p> <p><strong>Keywords: </strong>Traffic cases, mediation, victim's family member</p>tatchai subsuebwongผศ.ดร.ปํณณวิช ทัพวิมล
Copyright (c) 2025 วารสารนิติสาร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2025-06-302025-06-3021115149