ดนตรีแจ๊สเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1900 การประพันธ์และเรียบเรียงเพลงแจ๊สจำเป็นต้องอาศัยการบันทึกโน้ตเช่นเดียวกับดนตรีคลาสสิก นักดนตรีในยุคแรกและสถาบันดนตรีแจ๊สชั้นนำต่างมีส่วนสำคัญในการคิดวิธีการบันทึกโน้ตที่มีความเป็นสากล เพื่อให้ผู้เรียบเรียงสื่อสารกับนักดนตรีได้ตรงตามความหมายของบทเพลงอย่างสุนทรีย์และสามารถใช้ปฏิภาณร่วมกับการอ่านโน้ตได้อย่างอิสระ ซึ่งกลุ่มเครื่องดนตรีประกอบจังหวะถือเป็นองค์ประกอบหลักของวงดนตรีแจ๊สขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ในการสร้างลีลา ฮาร์โมนีย์และจังหวะ ประกอบด้วยเปียโน กีตาร์ กีตาร์เบส และกลอง ดังนั้นความเข้าใจในการบันทึกโน้ตที่ถูกต้องแบบสากลในฐานะที่เป็นผู้เรียบเรียง และการอ่านโน้ตในฐานะที่เป็นนักดนตรี ในการซ้อมรวมวง การแสดงสด และการบันทึกเสียง จึงมีความสำคัญ บทความนี้รวบรวมรูปแบบการบันทึกโน้ตจากวิชาการบันทึกโน้ต หนังสือทฤษฎีการเรียบเรียง และวิธีการบันทึกโน้ตจากนักเรียบเรียงเพลงแจ๊สที่ได้รับการยอมรับเช่น แซมมีย์ เนสทิโก, มาเรีย ชไนย์เดอร์, แดน เฮอร์ลีย์ และริชาร์ด ซัสแมน เป็นต้น คำสำคัญ: ดนตรีแจ๊ส; การบันทึกโน้ต; กลุ่มเครื่องประกอบจังหวะ; เครื่องหมายเส้นทแยง ABSTRACT Jazz music was developed since 1900. Composition and arranging required notation same as classical music. Jazz legendary and top of jazz music schools were important part to create notation system. Writing is a way to communicate a piece of music between arranger and musicians in musical aesthetics. Allowing musicians to use their own abilities to create the right feel. A rhythm section is a core group of instruments within an ensemble who provide defines of style, melody, harmonic and rhythmic reference for the rest of the band. A group comprises an electric guitar, a piano or a keyboard, a bass and drums. The ability to understand rhythm section writing and reading for rehearsal, performance and recording is essential to study. This article was gathered notation method from classes, arranging books and writing technique from jazz arrangers such as Sammy Nestico, Maria Schneider, Dan Haerle and Richard Sussman. Keywords: Jazz; Notation; Rhythm Section; Slashes