2024-03-28T20:01:30Z
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/index/oai
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4467
2014-08-27T13:56:47Z
swudentj:Review+articles
การยึดติดของสารยึดติดระบบเซลฟ์ เอทช์ ไพร์เมอร์ บนเคลือบฟัน และเนื้อฟันปกติ
วีระประวัติ, วีระพร
พูลทอง, สุชิต
-
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-08-27
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4467
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 1 No. 1 (2005): Srinakharinwirot University Dental Journal; 59-71
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4467/4302
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4476
2015-03-27T15:23:07Z
swudentj:Review+articles
ระบบการขนส่งยาฆ่าเชื้อสำหรับเสริมในการรักษาโรคปริทันต์แบบเฉพาะที่โดยการใช้ตัวเก็บกักยาชนิดไฟเบอร์และฟิล์ม
จิ๋วพัฒนกุล, ปรมาภรณ์
บทคัดย่อโรคปริทันต์เป็นโรคหนึ่งที่มีความสำคัญมากในด้านทันตกรรม วิธีการในการรักษาโรคปริทันต์ได้แก่ การรักษาด้วยวิธีการขูดหินน้ำลายและเกลารากฟัน รวมไปถึงการทำศัลยกรรมปริทันต์ และให้การรักษาร่วมกับการแนะนำการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วย โดยกลยุทธ์สำคัญในการรักษาคือการกำจัดเชื้อโรคที่อยู่ในบริเวณอวัยวะปริทันต์ ดังนั้นในบริเวณร่องลึกปริทันต์ที่ยากต่อการเข้าถึงยาฆ่าเชื้อจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยส่งเสริมให้การรักษามีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้น แต่ปัจจุบันยาปฏิชีวนะที่ให้ทางระบบนั้นยังพบปัญหาการดื้อยาและผลข้างเคียงอยู่มาก การใช้ระบบการขนส่งยาฆ่าเชื้อแบบเฉพาะที่จึงมีบทบาทเป็นอย่างมากในการรักษาโรคปริทันต์ในปัจจุบัน ตัวเก็บกักยาชนิดไฟเบอร์และฟิล์มเป็นตัวอย่างของตัวเก็บกักยาที่ใช้ในการขนส่งยาที่มีความสำคัญ บทความนี้จึงได้ทำการทบทวนถึงการพัฒนาขององค์ประกอบตัวเก็บกักยาทั้งสองระบบนี้ รวมถึงวิธีการใช้งาน ข้อดีและข้อเสียของการใช้ตัวเก็บกักยาทั้งสองระบบ และการใช้งานที่มีอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย คำสำคัญ: ตัวเก็บกักยาชนิดฟิล์ม ตัวเก็บกักยาชนิดไฟเบอร์ ยาปฏิชีวนะ ระบบการขนส่งยาแบบเฉพาะที่ โรคปริทันต์อักเสบ
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2015-03-27
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4476
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 6 No. 2 (2013): Srinakharinwirot University Dental Journal; 78-89
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4476/4309
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4477
2015-03-27T15:23:07Z
swudentj:Review+articles
การแยกเหงือก(gingival displacement)
พลานุเวช, มะลิ
บทคัดย่อ ในงานทันตกรรมบูรณะชนิดอาศัยห้องปฏิบัติการนอกช่องปากนั้น การแยกเหงือกให้ร่องเหงือกกว้าง 0.2 มิลลิเมตร ช่วยให้ได้แบบพิมพ์ฟันที่มีคุณภาพ การแยกเหงือกสามารถทำได้ง่ายและเห็นขอบฟันที่จะบูรณะชัดเจนนั้นอวัยวะปริทันต์ต้องแข็งแรงและขอบฟันที่จะบูรณะอยู่ใต้ขอบเหงือกในตำแหน่งที่เหมาะสม การแยกเหงือกด้วยวิธีการทางกลร่วมกับทางเคมีโดยใช้ด้ายแยกเหงือกชุบน้ำยาเคมีชนิดต่างๆ ได้รับความนิยมมาก อีพิเนฟฟรินเป็นสารเคมีที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะมีผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด เลเซอร์ได้ถูกนำมาใช้ตัดแต่งเหงือกส่วนเกินที่ปิดขอบฟันที่จะบูรณะโดยใช้ร่วมกับด้ายแยกเหงือกและสารเคมี จากรายงานต่างๆ พบว่าการแยกเหงือกด้วยวิธีต่างๆ มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันความเหนือกว่าของเทคนิกแยกเหงือกเทคนิกใดโดยเฉพาะ การเลือกใช้ขึ้นกับความชอบส่วนบุคคลและลักษณะความสมบูรณ์ของอวัยวะปริทันต์รอบขอบฟันที่จะบูรณะ คำสำคัญ : การแยกเหงือก ด้ายแยกเหงือก ขอบฟัน ร่องเหงือก
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2015-03-27
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4477
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 6 No. 2 (2013): Srinakharinwirot University Dental Journal; 90-102
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4477/4310
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4496
2014-09-18T04:21:37Z
swudentj:Review+articles
ฟันปลอมถอดได้โครงโลหะสำหรับผู้ป่วยปริทันต์
อรุณประดิษฐ์กุล, ศิริพร
-
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-09-18
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4496
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 2 No. 1 (2007): Srinakharinwirot University Dental Journal; 35 - 44
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4496/4318
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4497
2014-09-18T04:21:37Z
swudentj:Review+articles
การเปลี่ยนแปลงและบทวิเคราะห์การจำแนกกลุ่มเนื้องอกบริเวณศรีษะและลำคอตามองค์การอนามัยโลก ฉบับปี 2005
ทรัพยะโตษก, ไกรสร
รังสิยานนท์, สรสัณห์
ขวัญคง, ศรีสุข
ดนุไทย, กิตติพงษ์
-
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-09-18
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4497
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 2 No. 1 (2007): Srinakharinwirot University Dental Journal; 45 - 59
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4497/4319
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4517
2014-09-18T16:30:40Z
swudentj:Review+articles
แหล่งกำเนิดแสงที่ใช้ในงานยึดติดทางทันตกรรมจัดฟัน
จรรยาประเสริฐ, กมลภัทร
ชุณหชีวาโฉลก, เอกชัย
การใช้แบร็กเก็ตยึดติดผิวเคลือบฟันเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน ความเข็งแรงของพันธะในระดับที่เพียงพอของสารยึดติดชนิดบ่มด้วยด้วยแสงมีบทบาทสำคัญต่อทันตแพทย์ที่ให้การรักษา เพื่อที่จะสามารถใส่แรงจัดฟันได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหากแบร็กเก็ตไม่หลุดออกบ่อย การรักษาก็จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว การใช้สารยึดติดชนิดบ่มตัวด้วยแสงสำหรับการยึดติดแบร็กเก็ตกับฟันทุกซี่ในขากรรไกรจะใช้เวลาในคลินิกค่อนข้างนาน แต่ขบวนการพอลิเมอร์ไรเซชันของสารยึดติดนั้นจะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ ทำให้สามารถใส่ลวดมัดฟันได้ทันที ซึ่งเป็นข้อดีที่เด่นชัดของการใช้สารยึดติดชนิดบ่มตัวด้วยแสงเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้สารยึดติดชนิดบ่มเอง ดังนั้นเพื่อให้ได้ความแข็งแรงพันธะซึ่งเป็นที่ยอมรับได้ทางคลินิกจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องฉายแสงซึ่งมีแหล่งกำเนิดแสงที่ดี แหล่งกำเนิดแสงของเครื่องฉายแสงที่มีในท้องตลาดแบ่งได้เป็นสี่ประเภท ได้แก่ ชนิดดั้งเดิมคือควอทซ-ทังสเตน-ฮาโลเจน, ชนิดพลาสมาอาร์ค, ชนิดไดโอดเปล่งแสง และชนิดอาร์กอนเลเซอร์ ลักษณะการกำเนิดแสงของแหล่งกำเนิดแสงแต่ละประเภทนั้นมีข้อดีและข้อด้อยอยู่ในตัวเอง แหล่งกำเนิดแสดงชนิดฮาโลเจนเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีไว้ในคลินิกทันกรรมทุกแห่งมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ และยังคงมีใช้กันอย่างแพร่หลายโดยมีการพัฒนาในเรื่องความเข้มของแสง แหล่งกำเนิดแสงชนิดพลาสมาอาร์คและอาร์กอนเลเซอร์มีข้อดีที่อาจช่วยลดระยะเวลาในการบ่มตัวของสารยึดติดได้ แต่ราคาที่แพงก็เป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง แหล่งกำเนิดแสงชนิดไดโอดเปล่งแสงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการปฏิบัติงานคลินิกในปัจจุบัน กล่าวโดยสรุปคือแหล่งกำเนิดแสงทั้งหมดสามารถใช้งานได้ดีกับสารยึดติดชนิดบ่มตัวด้วยแสง แต่การบำรุงรักษาตามกำหนดระยะเวลา รวมถึงการใช้เครื่องตรวจวัดความเข้มแสงที่เชื่อถือได้ ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้มั่นใจถึงคุณภาพของแสงที่ยอมรับได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลดระยะเวลาในการทำงานให้น้ยอลองเท่านั้นแต่ยังทำให้ได้ความแข็งแรงพันธะระหว่างแบร็กเก็ตและผิวเคลือบฟันที่คงทนถาวรอีกด้วย คำสำคัญ : แหล่งกำเนิดแสดง, สารยึดติด, ควอทซ-ทังสเตน-ฮาโลเจน, พลาสมาอาร์ค, ไดโอดเปล่งแสง, อาร์กอนเลเซอร์
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-09-18
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4517
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 3 No. 1 (2010): Srinakharinwirot University Dental Journal; 25 - 34
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4517/4337
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4529
2014-09-18T04:44:39Z
swudentj:Review+articles
วัสดุพิมพ์แบบที่ใช้ในงานทันตกรรมประดิษฐ์ติดแน่น
เอี่ยมจิรกุล, ณปภา
การพิมพ์แบบเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการสร้างชิ้นงานบูรณะชนิดติดแน่นให้สำเร็จและวัสดุพิมพ์แบบเป็นปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จทางคลินิก วัตถุประสงค์ของบทความนี้คือ เพื่อทบทวนวัสดุพิมพ์แบบที่ใช้ในงานทันตกรรมประดิษฐ์ติดแน่น บทความนี้จะกล่าวถึงความรู้พื้นฐานของคุณสมบัติของวัสดุพิมพ์แบบได้แก่ ความแม่นยำ การคืนรูปแบบยืดหยุ่น เสถียรภาพเชิงมิติ คุณสมบัติความชอบน้ำ คุณสมบัติการไหลแผ่ ความสามารถในการคืนตัว ความหนืด การผิดรูป ความทนต่อการฉีกขาด รวมทั้งข้อดีและข้อเสียของวัสดุพิมพ์แบบชนิดอีลาสโทเมอร์ คำสำคัญ: วัสดุพิมพ์แบบชนิดอีลาสโทเมอร์, ทันตกรรมประดิษฐ์ติดแน่น, คุณสมบัติของวัสดุพิมพ์
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-09-18
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4529
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 4 No. 1 (2011): Srinakharinwirot University Dental Journal; 52 - 65
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4529/4349
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4541
2014-09-18T17:24:36Z
swudentj:Review+articles
ปริทันต์บำบัดคราวเดียวเสร็จ
ทองศิริ, ชื่นชีวิต
เหล่าศรีสิน, ณรงค์ศักดิ์
ปัจจุบันการรักษาโรคปริทันต์อักเสบในระยะเริ่มต้นได้พัฒนาการรักษาในหลายรูปแบบ ทั้งนี้มีจุด ประสงค์เพื่อกำจัดเชื้อก่อโรค และลดการอักเสบของอวัยวะปริทันต์ให้ได้ดีที่สุด ทั้งนี้การรักษาปริทันต์บำบัดคราวเดียวเสร็จเป็นรูปแบบหนึ่งที่ให้ผลการรักษาที่น่าพอใจ บทความนี้ได้รวบรวมความรู้ของรูปแบบต่างๆ ของการรักษาโรคปริทันต์อักเสบ โดยไม่อาศัยการทำศัลยกรรมปริทันต์ โดยกล่าวถึงวิธีการรักษาในรูปแบบ ต่างๆ ที่มา และแนวคิด ในการรักษา รวมถึงการเปรียบเทียบระหว่างการรักษาในแต่ละรูปแบบว่าให้ผล การรักษาทั้งทางคลินิก และทางชีววิทยาที่แตกต่างกันอย่างไร คำสำคัญ : ปริทันต์บำบัดคราวเดียวเสร็จ, การรักษาโรคปริทันต์อักเสบในระยะเริ่มต้น, การรักษาปริทันต์อักเสบโดยไม่อาศัยการทำศัลยกรรมปริทันต์
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-09-18
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4541
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 5 No. 1 (2012): Srinakharinwirot University Dental Journal; 94 - 107
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4541/4359
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4563
2014-09-19T11:50:27Z
swudentj:Review+articles
การใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาการติดเชื้อในคลองรากฟัน
สุขอวยชัย, จรัสลักษณ์
ศักดิ์ดี, จารุมา
ยาปฏิชีวนะถูกนำมาใช้ในทางทันตกรรมเพื่อรักษาการติดเชื้อในช่องปากซึ่งรวมถึงการติดเชื้อในคลองรากฟันด้วย วัตถุประสงค์ของบทความนี้เพื่อทบทวนการใช้ยาปฏิชีวนะทางระบบและแบบเฉพาะที่ในการรักษาการติดเชื้อในคลองรากฟัน โดยบทความนี้ได้รวบรวมคุณสมบัติของยา ข้อบ่งใช้ วิธีบริหารยาทางระบบ การใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และผลข้างเคียงของยาปฏิชีวนะ คำสำคัญ : ยาปฏิชีวนะ การติดเชื้อในคลองรากฟัน การติดเชื้อในช่องปาก
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-09-19
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4563
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 6 No. 1 (2013): Srinakharinwirot University Dental Journal; 52 - 65
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4563/4377
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4564
2014-09-19T11:50:27Z
swudentj:Review+articles
การบูรณะคลองรากฟันแบบผาย
อนุสรณ์สุวรรณ, ศศิธร
ลิมป์ลาวัณย, ธีรชัย
ในทางคลินิกฟันที่ผ่านการรักษาคลองรากฟันและมีผนังคลองรากฟันบางและ/หรือคลองรากฟันกว้างผิดปกติเกิดลักษณะคลองรากฟันแบบผาย ทำให้เกิดความซับซ้อนในการบูรณะฟัน และส่งผลต่อการพยากรณ์ความสำเร็จภายหลังการรักษา วัตถุประสงค์ของบทความนี้เพื่อเสนอวิธีการบูรณะฟันดังกล่าวด้วยวิธีโดยตรงและโดยอ้อม ซึ่งการบูรณะโดยใช้เรซินคอมพอสิตร่วมกับเดือยฟันเส้นใยเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพเนื่องจากเพิ่มความต้านทานต่อการแตกหักของฟัน และลดการแตกหักที่ไม่สามารถบูรณะซ้ำใหม่ในฟันที่มีคลองรากฟันแบบผายได้ คำสำคัญ : คลองรากฟันแบบผาย เดือยฟันเส้นใย เรซินคอมพอสิต ฟันที่ผ่านการรักษาคลองรากฟัน
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-09-19
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4564
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 6 No. 1 (2013): Srinakharinwirot University Dental Journal; 66 - 76
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4564/4378
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4565
2014-09-19T11:50:27Z
swudentj:Review+articles
อนุภาคนาโนเงินในงานทันตกรรม
เอี่ยมจิรกุล, ณปภา
เอกวรพจน์, ปิยะนารถ
พูลนวม, ฐิติวัลคุ์
นาโนเทคโนโลยี ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้งานอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นในทางวิศวกรรม ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา รวมถึงการใช้งานในวงการแพทย์นับตั้งแต่ปี 1974 เป็นต้นมา ในวงการทันตกรรมวัสดุบูรณะฟันเรซินคอมโพสิตชนิดนาโนฟิลด์ หรือ นาโนไฮบริด จัดเป็นตัวแทนของนาโนวัสดุที่ใช้งานในทางทันตกรรม การใช้เทคโนโลยีนาโนในการสังเคราะห์อนุภาคของสารซิลเวอร์ไนเตรทให้เป็นอนุภาคนาโนเงินทำให้มีคุณสมบัติที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดี มีรายงานการนำอนุภาคนาโนเงินมาประยุกต์ใช้งานกับวัสดุทางการแพทย์ เช่น ผ้าปิดแผล วัสดุฝังในร่างกาย ดังนั้นอนุภาคนาโนเงินจึงมีความน่าสนใจในการลดการสะสมเชื้อแบคทีเรียที่บริเวณพื้นผิวด้านสัมผัสเนื้อเยื่อของเครื่องมือทันตกรรมประดิษฐ์ เช่นฐานฟันเทียมชนิดอะคริลิกหรือไนลอน ทำให้ปากอักเสบเหตุฟันเทียมลดลงได้ บทความนี้กล่าวถึงการพัฒนาวัสดุทางทันตกรรมที่เน้นการเพิ่มคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะการนำอนุภาคนาโนเงินมาใส่ในฐานฟันเทียมอะคริลิก คำสำคัญ : อนุภาคนาโนเงิน คุณสมบัติต่อต้านเชื้อ ฐานฟันเทียมอะคริลิก
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-09-19
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4565
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 6 No. 1 (2013): Srinakharinwirot University Dental Journal; 77 - 86
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4565/4379
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4605
2014-09-19T12:11:36Z
swudentj:Review+articles
ชุดฟันเทียมเดี่ยวบน : วิธีการสร้างการสบฟันขณะใช้งาน
มโนมัยวงศ์, วรประภา
แสนทวีสุข, วัลลภัทน์
บทคัดย่อ ผู้ป่วยที่มีการสูญเสียฟันบนไปทั้งหมด โดยที่ขากรรไกรล่างยังมีฟันเหลืออยู่ ทำให้เกิดความซับซ้อนในการรักษา เนื่องจากฟันธรรมชาติมีการเปลี่ยนตำแหน่ง และมีระนาบสบฟันที่ไม่ประสานกัน มีวิธีการต่างๆ ที่นำมาใช้บูรณะชุดฟันเทียมเดี่ยวบน โดยมีหลักการสำคัญคือ ต้องการให้เกิดแรงที่สมดุลในการบดเคี้ยว โดยให้มีการสบฟันได้ดุลสองข้าง เพื่อให้เกิดเสถียรภาพและการยึดอยู่ที่ดีของฟันเทียมบน วัตถุประสงค์ของบทความปริทัศน์ฉบับนี้ได้นำเสนอ วิธีการบูรณะชุดฟันเทียมเดี่ยวบน โดยการหาระนาบสบฟันของฟันธรรมชาติล่าง โดยใช้เครื่องมือบรอร์ดริก แฟลก อนาไลเซอร์ การใช้แผ่นแบบอะคริลิกใสลอกเลียนการกรอปรับด้านบดเคี้ยวจากแบบจำลองศึกษาไปยังช่องปาก และการใช้วิธีวิถีกำเนิดจากการทำหน้าที่ คำสำคัญ: ชุดฟันเทียมเดี่ยวบน บรอร์ดริก แฟลก อนาไลเซอร์ วิถีกำเนิดจากการทำหน้าที่ แผ่นแบบอะคริลิกใส
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-09-19
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4605
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 7 No. 1 (2014): Srinakharinwirot University Dental Journal; 68-79
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4605/4428
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4606
2014-09-19T12:11:36Z
swudentj:Review+articles
เซอร์โคเนียและการปรับสภาพพื้นผิวเซรามิกชนิดเซอร์โคเนีย
จิรวัฒนกุล, หยาดพิรุณ
ลิมป์ลาวัณย์, ธีรชัย
จำปาศิริ, แป้งพิมพ์
บทคัดย่อ ความล้มเหลวในทางคลินิกของเซรามิกชนิดเซอร์โคเนียส่วนใหญ่มาจากการยึดติดกับพื้นผิวของซีเมนต์หรือการแตกหักของพื้นผิวภายในเซรามิก วัตถุประสงค์ของบทความนี้เพื่อเสนอการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยการปรับสภาพพื้นผิวเซรามิก ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพเนื่องจากช่วยเสริมความแข็งแรงในการยึดติดระหว่างเซรามิกกับเนื้อฟัน และลดการแตกหักของพื้นผิวภายในเซรามิกได้ คำสำคัญ: เซรามิกชนิดเซอร์โคเนีย การปรับสภาพพื้นผิวเซรามิก เซรามิกไพรเมอร์
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-09-19
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4606
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 7 No. 1 (2014): Srinakharinwirot University Dental Journal; 80-87
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4606/4429
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4608
2014-09-19T12:11:36Z
swudentj:Review+articles
อนุภาคนาโนเงินในฐานฟันเทียมเรซินอะคริลิก
ขุนหลวง, อภิญญา
เอี่ยมจิรกุล, ณปภา
บทคัดย่อ โรคปากอักเสบเหตุฟันเทียมเป็นการอักเสบของเนื้อเยื่อที่รองรับใต้ฐานฟันเทียม ซึ่งสามารถพบได้บ่อยในผู้ใส่ฟันเทียม และมีความสัมพันธ์กับเชื้อราแคนดิดา อัลบิแคนส์ ปัจจุบันมีการนำนาโนเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในงานทันตกรรม โดยนำอนุภาคนาโนเงินมาผสมทำฐานฟันเทียมเรซินอะคริลิกเพื่อให้มีคุณสมบัติต้านจุลชีพลดการสะสมของจุลชีพในช่องปากและลดอัตราการเกิดสภาวะปากอักเสบเพราะเชื้อราแคนดิดาในผู้ใส่ฟันเทียมทำให้ผู้ใส่ฟันเทียมสามารถดูแลรักษาฟันเทียมและสุขอนามัยช่องปากได้ดีขึ้น คำสำคัญ: อนุภาคนาโนเงิน คุณสมบัติต้านจุลชีพ ฐานฟันเทียมเรซินอะคริลิก
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-09-19
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4608
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 7 No. 1 (2014): Srinakharinwirot University Dental Journal; 60-67
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4608/4431
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/4896
2014-12-24T15:42:45Z
swudentj:Review+articles
สถานการณ์การสูบบุหรี่ในเด็กประถมศึกษา กับ บทบาทวิชาชีพทันตแพทย์
แก้วสุทธา, ณัฐวุธ
วิสาลเสสถ์, วิกุล
อภิวัฒน์, ศศิวิมล
ถกลวิบูลย์, ดลพร
บทคัดย่อ วิชาชีพทันตแพทย์มีบทบาทในการควบคุมการบริโภคยาสูบมาเป็นเวลายาวนานร่วมกับวิชาชีพสุขภาพอื่นๆ เนื่องจากบุหรี่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการเกิดโรคในช่องปาก เช่น โรคปริทันต์อักเสบ และมะเร็งในช่องปาก ดังนั้น การป้องกันผู้สูบบุหรี่หน้าใหม่ จึงเป็นบทบาทที่สำคัญของวิชาชีพ จากข้อมูลในปัจจุบันพบว่าการสูบบุหรี่ในกลุ่มเด็กและเยาวชนมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเริ่มสูบบุหรี่ในอายุที่น้อยลง เด็กสามารถเข้าถึงบุหรี่ได้ง่ายขึ้นจากอิทธิพลของบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวที่สูบบุหรี่และการถูกผู้ใหญ่ใช้ให้ไปซื้อบุหรี่ บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนองค์ความรู้ในเรื่องสถานการณ์และความรุนแรงของการสูบบุหรี่ในเด็กชั้นประถมศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจัยเชิงสาเหตุที่กระตุ้นให้เด็กเริ่มสูบบุหรี่ รวมถึงรูปแบบการจัดกิจกรรมและรณรงค์ต่างๆ ในการป้องกันผู้สูบบุหรี่หน้าใหม่ในกลุ่มเด็กประถมศึกษา ซึ่งจะนำไปสู่การวางแผนและกำหนดแนวนโยบายของวิชาชีพทันตแพทย์ในการจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันผู้สูบบุหรี่หน้าใหม่ในเด็กและเยาวชนต่อไป คำสำคัญ: สูบบุหรี่ ประถมศึกษา วิชาชีพทันตแพทย์
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2014-12-24
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4896
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 7 No. 2 (2014): Srinakharinwirot University Dental Journal; 103-120
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/4896/4682
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/5423
2015-06-30T16:27:22Z
swudentj:Review+articles
ทฤษฎีและแนวคิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากของวัยรุ่นตอนต้น
แก้วสุทธา, ณัฐวุธ
อินทรกำแหง, อังศินันท์
ดวงจันทร์, พัชรี
บทคัดย่อ ปัญหาโรคฟันผุและเหงือกอักเสบในวัยรุ่นตอนต้นยังคงเป็นปัญหาทางทันตสุขภาพที่มีความสำคัญมากและมีแนวโน้มสูงขึ้น การศึกษาเพื่อทำความเข้าใจปัจจัยทางจิตสังคมและพฤติกรรมศาสตร์ยังมีน้อยมาก ทั้งที่ปัจจัยดังกล่าวมีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากมาก การจะแก้ปัญหาและลดผลกระทบทางสุขภาพจะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนากิจกรรมหรือโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากของวัยรุ่นตอนต้นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งบทความนี้ เป็นการประมวลเอกสารที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดและทฤษฎีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเน้นในแนวคิดจากทฤษฎีการเรียนรู้ปัญญาสังคม โดยเฉพาะในส่วนของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยใช้แนวคิดการปรับเปลี่ยนจากปัจจัยภายใน รวมถึงงานวิจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบกิจกรรมอื่นๆ เพื่อส่งเสริมโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากที่เคยมีการศึกษามาในอดีต เพื่อสรุปเป็นข้อเสนอทางวิชาการที่เหมาะสมในการสร้างและพัฒนาโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากของวัยรุ่นตอนต้นที่มีประสิทธิภาพต่อไป คำสำคัญ: ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การดูแลอนามัยช่องปาก วัยรุ่นตอนต้น
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2015-06-30
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/5423
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 8 No. 1 (2015): Srinakharinwirot University Dental Journal; 87-100
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/5423/5087
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/5424
2015-06-30T16:27:22Z
swudentj:Review+articles
การปลูกฟันโดยตั้งใจ
วงศ์เยาว์ฟ้า, อินทรา
ย้อยนวล, ชุตินันท์
บทคัดย่อ การปลูกฟันโดยตั้งใจเป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อการรักษาคลองรากฟันโดยวิธีปกติ หรือการทำศัลยกรรมเอ็นโดดอนต์ประสบความล้มเหลว หรือไม่สามารถทำการรักษาได้ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถทำได้ในทุกกรณีจึงจำเป็นต้องเลือกฟันและผู้ป่วยที่มีความเหมาะสมในการรักษา ถ้าทำการักษาได้อย่างถูกต้องผลสำเร็จของการรักษาค่อนข้างสูง ค่าใช้จ่ายในการทำงานไม่แพง ความล้มเหลวที่พบได้คือ ฟันแตกระหว่างการถอนฟัน หรือการมีการละลายร่วมกับการอักเสบรอบรากฟัน บทความปริทัศน์ฉบับนี้ได้รวบรวม ข้อบ่งชี้และข้อห้ามในการปลูกฟันโดยตั้งใจ ขั้นตอนการรักษา อัตราสำเร็จของการรักษาและความล้มเหลวที่เกิดขึ้นคำสำคัญ: การปลูกฟันโดยตั้งใจ ข้อบ่งชี้ ข้อห้าม ผลการรักษา
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2015-06-30
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/5424
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 8 No. 1 (2015): Srinakharinwirot University Dental Journal; 101-111
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/5424/5088
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/6980
2015-12-29T14:29:07Z
swudentj:Review+articles
เทคนิคการพิมพ์แบบเฉพาะส่วน
สกุลไทย, ธยาตรี
ลิมป์ลาวัณย์, ธีรชัย
บทคัดย่อทันตแพทย์ส่วนใหญ่มักจะประสบปัญหาในการพิมพ์แบบผู้ป่วยที่มีช่องปากเล็กหรืออ้าปากได้จำกัดเนื่องจากนำถาดพิมพ์ใส่และนำออกจากช่องปากผู้ป่วยได้ลำบาก การใช้ถาดพิมพ์ทั่วไปจึงอาจทำได้ยากกว่าผู้ป่วยที่มีขนาดช่องปากปกติ นอกจากนี้ในกรณีที่ต้องพิมพ์ฟันหลักยึดหลายซี่พร้อมกันร่วมกับการใช้วัสดุพิมพ์แบบที่มีระยะเวลาทำงานจำกัดเป็นขั้นตอนหนึ่งที่ทำให้ได้รอยพิมพ์ที่สมบูรณ์ค่อนข้างยาก วัตถุประสงค์ของบทความนี้เพื่อเสนอวิธีการพิมพ์แบบเฉพาะส่วนที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยช่องปากเล็กหรืออ้าปากได้จำกัดและการพิมพ์ฟันหลักยึดหลายซี่พร้อมกัน เพื่อให้ได้รอยพิมพ์ที่มีความเที่ยงตรงมากขึ้น ลดการพิมพ์ซ้ำและการบาดเจ็บต่อผู้ป่วย รวมทั้งทันตแพทย์สามารถปฏิบัติงานได้ง่ายขึ้นคำสำคัญ: การพิมพ์แบบเฉพาะส่วน ช่องปากเล็ก อ้าปากได้จำกัด พิมพ์ฟันหลักยึดหลายซี่
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2015-12-24
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/6980
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 8 No. 2 (2015): Srinakharinwirot University Dental Journal; 94-106
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/6980/6519
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/6981
2015-12-29T14:29:07Z
swudentj:Review+articles
การยึดติดระหว่างเรซินและเซรามิก
รพีธนธร, ศศกร
เอี่ยมจิรกุล, ณปภา
บทคัดย่อวัสดุบูรณะฟันเซรามิกล้วนได้รับความนิยมมากขึ้นในการทำฟันเทียมบางส่วนติดแน่น การเลือกใช้เรซินซีเมนต์ทางทันตกรรมจึงมีบทบาทสำคัญในการยึดติดของวัสดุบูรณะฟันกับเนื้อฟัน วัตถุประสงค์ของบทความนี้ได้นำเสนอประเภทของเรซินซีเมนต์ การปรับปรุงพื้นผิว การทาสารคู่ควบไซเลน และเสถียรภาพของสีของเซรามิกซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการบูรณะฟันคำสำคัญ: เรซินซีเมนต์ การปรับปรุงพื้นผิว สารคู่ควบไซเลน เสถียรภาพของสี
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2015-12-24
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/6981
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 8 No. 2 (2015): Srinakharinwirot University Dental Journal; 107-115
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/6981/6520
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/7854
2016-08-15T23:21:08Z
swudentj:Review+articles
การจัดการทางทันตกรรมในผู้ป่วยออทิสติกสเปคตรัม
ยุกตานนท์, วรชน
บทคัดย่อ ผู้ป่วยออทิสติกสเปคตรัมเป็นผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการรูปแบบหนึ่ง โดยมีอาการแสดงออกถึงความบกพร่องด้านภาษา การสื่อความหมาย สัมพันธภาพกับบุคคล และการมีพฤติกรรมซ้ำๆ การรักษาทางทันตกรรมในผู้ป่วยกลุ่มนี้มีความยากลำบากเพราะผู้ป่วยไม่ร่วมมือในการรักษา ไม่สามารถสื่อสารกับทันตแพทย์ และอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่ผู้ป่วยรับประทานเป็นประจำกับยาที่ทันตแพทย์ใช้ในการรักษา วัตถุประสงค์ของบทความนี้เพื่อให้ทันตแพทย์มีความรู้เกี่ยวกับลักษณะของผู้ป่วยออทิสติกสเปคตรัม การรักษาทางการแพทย์ ปัญหาทางทันตกรรมและการรักษาทางทันตกรรมในผู้ป่วยออทิสติกสเปคตรัม คำสำคัญ : ออทิสติกสเปคตรัม การจัดการทางทันตกรรม การปรับพฤติกรรม
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2016-08-15
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/7854
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 9 No. 1 (2016): Srinakharinwirot University Dental Journal; 98-109
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/7854/7085
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/8262
2017-02-10T16:58:44Z
swudentj:Review+articles
โฟโตไดนามิคเทอราปีเพื่อการรักษาทางปริทันต์
อัครทิวา, ภัทราพร
ศรีสุวรรณฑา, รุ่งทิวา
เหล่าศรีสิน, ณรงค์ศักดิ์
มีการศึกษาวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านต่างๆสําหรับการรักษาทางปริทันตวิทยามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาวิธีที่มีประสิทธิภาพ ทําให้เกิดผลที่ดีในระยะยาว รวมถึงเกิดผลข้างเคียงต่อผู้ป่วยน้อย ที่สุด โฟโตไดนามิคเทอราปีถือเป็นวิธีหนึ่งที่กําลังเป็นที่สนใจของนักวิจัย และทันตแพทย์เฉพาะทางหลายๆ สาขารวมถึงทันตแพทย์ทั่วไป และถูกนํามาใช้ในการศึกษาวิจัยและการรักษาโรคปริทันต์อักเสบ งานทบทวนวรรณกรรมฉบับนี้ได้รวบรวมการศึกษาตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 จนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ นักวิจัยและทันตแพทย์ผู้สนใจ ใช้เป็นแหล่งค้นคว้าข้อมูล สามารถนําไปพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ให้เกิดงานวิจัย ความต่อเนื่องในการศึกษาวิจัยและสามารถนําไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วย โดยงานทบทวนวรรณกรรมฉบับนี้ได้ถูกรวบรวมไว้ในหัวข้อเรื่อง หลักการพื้นฐานทางโฟโตไดนามิคเทอราปี การวิจัยเกี่ยวกับโฟโตไดนามิคเทอราปีเพื่อใช้ในการรักษาโรคปริทันต์ รวมถึงผลิตภัณฑ์โฟโตไดนามิคเทอราปีที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งอาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า การใช้โฟโตไดนามิคเทอราปีซ้ำมากกว่า 1 ครั้งในการรักษาโรคปริทันต์อักเสบขั้นคงสภาพให้ผลดีกว่าอย่างมีนัยสําคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับการรักษาโดยการขูดหินน้ำลายและเกลารากฟันเพียงอย่างเดียว เนื่องจากโฟโตไดนามิคเทอราปีมีประสิทธิภาพในการลดเชื้อที่เป็นสาเหตขุองโรคปริทันต์อักเสบ ช่วยลดการมีเลือดออกจากการโพรบ รวมถึงอาจจะช่วยลดความลึกของร่องลึกปริทันต์และเพิ่มระดับการยึดเกาะของอวัยวะปริทันต์ ถึงแม้ว่าโฟโตไดนามิคเทอราปียังไม่สามารถแทนที่การขูดหินน้ำลายและเกลารากฟันได้ อย่างไรก็ตามโฟโตไดนามิคเทอราปียังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยังมีการศึกษาระยะยาวค่อนข้างน้อย จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะศึกษาเพิ่มเติมต่อไป คำสำคัญ : โฟโตไดนามิคเทอราปี โรคปริทันต์อักเสบ การขูดหินน้ำลายและเกลารากฟัน
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2016-12-30
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/8262
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 9 No. 2 (2016): Srinakharinwirot University Dental Journal; 39-64
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/8262/7327
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/8263
2017-02-10T16:58:44Z
swudentj:Review+articles
ผลกระทบของการกัดฟัน
ภู่เกียรติ, ฟ้าใส
การนอนกัดฟันหมายถึงการบดฟัน และการขบเน้นฟัน เป็นพฤติกรรมทำงานนอกหน้าที่ที่พบบ่อยในระบบบดเคี้ยวเกิดขึ้นได้ทั้งขณะหลับ และขณะตื่น การกัดฟันสามารถส่งผลกระทบทั้งต่อฟัน อวัยวะปริทันต์ กล้ามเนื้อบดเคี้ยว ข้อต่อขากรรไกร กระดูก เนื้อเยื่ออ่อน ภาพลักษณ์ใบหน้า คุณภาพในการนอน และอาการปวดศีรษะ วัตถุประสงค์ของบทความนี้ เพื่อทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องของผลกระทบของการกัดฟันต่อระบบบดเคี้ยว ให้ทันตแพทย์ได้ตระหนักถึงผลกระทบดังกล่าว รวมทั้งสามารถให้การวินิจฉัยเบื้องต้น และให้การรักษาที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ลดการรักษาที่ไม่จำเป็น รวมถึงเวลาและค่าใช้จ่ายด้วยคำสำคัญ: กัดฟัน ผลกระทบ อาการ อาการแสดง
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2016-12-30
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/8263
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 9 No. 2 (2016): Srinakharinwirot University Dental Journal; 65-76
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/8263/7328
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/8964
2017-06-30T16:05:08Z
swudentj:Review+articles
การบันทึกแบบฟันระบบดิจิตอลเปรียบเทียบกับวิธีพิมพ์แบบดั้งเดิม
ลิ่มบุตร, เสาวดี
เอี่ยมจิรกุล, ณปภา
บทคัดย่อการพิมพ์แบบเป็นขั้นตอนที่สำคัญต่อความถูกต้องแม่นยำในการสร้างชิ้นงานบูรณะ โดยเฉพาะในงานทันตกรรมประดิษฐ์ติดแน่น การใช้วัสดุพิมพ์แบบจะได้รับการยอมรับว่ามีเสถียรภาพเชิงมิติสามารถลอกเลียนรายละเอียด และมีความเที่ยงตรงที่ดี แม้ว่าความคลาดเคลื่อนหลายอย่างซึ่งมีผลต่อความถูกต้องของชิ้นงานบูรณะอาจเกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนทางคลินิกและห้องปฏิบัติการในปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบและผลิตร่วมกับการบันทึกแบบฟันระบบดิจิตอลโดยตรงจากภายในช่องปากจะสามารถข้ามข้นั ตอนสำคัญหลายอย่างจากวิธีการด้งั เดิมโดยการใช้วัสดุพิมพ์แบบได้อีกทั้งการบันทึกแบบฟันระบบดิจิตอลมีหลากหลายระบบให้เลือกใช้ และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งและอาจจะมาแทนที่การใช้วัสดุพิมพ์แบบดั้งเดิมในอนาคตคำสำคัญ: การบันทึกแบบฟันระบบดิจิตอล วัสดุพิมพ์แบบ ไวนิลพอลิอีเทอร์ซิลิโคน
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2017-06-30
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/8964
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 10 No. 1 (2017): Srinakharinwirot University Dental Journal; 83-92
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/8964/7724
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/9554
2018-03-08T11:18:49Z
swudentj:Review+articles
ฟันเทียมทั้งปากคร่อมรากเทียม
ปึงไพบูลย์, อุษณีย์
ศิริจานุสรณ์, วันวิสา
บทคัดย่อฟันเทียมทั้งปากคร่อมรากเทียมเป็นทางเลือกการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่ไร้ฟันทั้งปาก โดยมีระบบการยึดที่เชื่อมกันระหว่างฟันเทียมและรากเทียม ฟันเทียมทั้งปากคร่อมรากเทียม 2 ตัว ในขากรรไกรล่างที่ไร้ฟันให้ความสำเร็จและการอยู่รอดที่ดีในระยะยาวรวมถึงเพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วย และประสิทธิภาพการใช้งานในช่องปาก ส่วนในขากรรไกรบนที่ไร้ฟัน ฟันเทียมทั้งปากคร่อมรากเทียม 4 หรือ 6 ตัว ยึดฟันเทียมด้วยระบบการยึดแท่งซึ่งเป็นระบบเชื่อมติดให้ผลการใช้งานที่ดี การวางแผนการรักษาฟันเทียมทั้งปากคร่อมรากเทียมควรคำนึงถึงเกณฑ์การเลือกใช้สำหรับระบบการยึด อัตราความสำเร็จและความล้มเหลว รวมถึงการคงสภาพของฟันเทียมทั้งปากคร่อมรากเทียมคำสำคัญ : ฟันเทียมคร่อมรากเทียม ระบบการยึด อายุการใช้งาน
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2017-12-29
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/9554
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 10 No. 2 (2017): Srinakharinwirot University Dental Journal; 77-89
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/9554/8202
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/9555
2018-03-08T11:18:49Z
swudentj:Review+articles
Protein Biomarkers in Saliva in Oral Squamous Cell Carcinoma
Bhattarai, Bishwa Prakash
Klongnoi, Boworn
Khovidhunkit, Siribang-on Pibooniyom
Wongsirichat, Natthamet
Abstract Diagnosis of oral squamous cell carcinoma (OSCC) relies mainly on the histopathological analysis of the biopsied tissue which is always traumatic for the patient. Salivary biomarkers might be an important adjunct to the diagnosis of OSCC especially in early stages of the disease because of the ease and non-invasiveness of specimen collection. Many salivary biomarkers have already been introduced. This article is a review of the protein biomarkers that have been investigated for their usefulness in association to OSCC. Key Words: Oral cancer, biomarker, protein, salivary diagnostics
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2017-12-29
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/9555
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 10 No. 2 (2017): Srinakharinwirot University Dental Journal; 90-102
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/9555/8203
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/10219
2018-06-28T16:54:24Z
swudentj:Review+articles
การแก้ไขภาวะฟันสบไขว้ด้านแก้มด้วยทันตกรรมจัดฟัน
ทองเกิด, วรุฒ
วรชาติ, พลพิทยา
เสรีรักษ์จุฑารังษี, สรัญญา
บทคัดย่อฟันสบไขว้ด้านแก้มหรือภาวะซิสเซอร์ไบท์ คือ ภาวะที่ฟันหนึ่งซี่หรือหลายซี่มีตำแหน่งสบฟันผิดปกติในแนวขวางโดยพบว่าฟันบนนั้นเอียงตัวออกทางด้านแก้มมากกว่าฟันคู่สบ สาเหตุของความผิดปกตินี้สามารถมาได้จากทั้งปัจจัยด้านตัวฟัน ปัจจัยด้านกระดูกขากรรไกรหรือปัจจัยเชิงหน้าที่ โดยสาเหตุที่พบมากที่สุดนั้นคือปัจจัยด้านตัวฟัน โดยเฉพาะการขาดพื้นที่ในขากรรไกรและการขึ้นของฟันที่ผิดปกติ ทำให้เกิดการยื่นย้อยของฟันและไม่สบกับฟันคู่สบหลักการของการแก้ไขฟันสบไขว้ด้านแก้มโดยทันตกรรมจัดฟันเป็นการย้อนภาวะความผิดปกติที่เกิดขึ้นโดยการใช้แรงเคลื่อนฟันที่สำคัญสองชนิด คือ แรงดันเข้าและแรงล้มเอียง โดยจากการทบทวนวรรณกรรมพบว่ามีรายงานถึงเครื่องมือและแนวทางที่ใช้ในการรักษาฟันสบไขว้ด้านแก้มหลายชนิด ทั้งเครื่องมือจัดฟันถอดได้เครื่องมือจัดฟันติดแน่นและการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันร่วมกับศัลยกรรมช่องปาก ซึ่งมีความเหมาะสมที่แตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละคน ทันตแพทย์พึงเห็นความสำคัญของการตรวจละเอียด การวินิจฉัยที่ถูกต้องและคาดการณ์สาเหตุของความผิดปกติที่เกิดขึ้น เพื่อสามารถเลือกแผนการรักษาหรือเครื่องมือเพิ่มเติมที่เหมาะสมเอื้อประโยชน์ให้กับการเคลื่อนฟันในตำแหน่งอื่น เกิดการแก้ไขที่มีประสิทธิภาพและให้ผลการรักษาที่ดีต่อผู้ป่วยในแต่ละรายคำสำคัญ: ภาวะฟันสบไขว้ด้านแก้ม, ภาวะซิสเซอร์ไบท์, เครื่องมือทางทันตกรรมจัดฟัน
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2018-06-30
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/10219
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 11 No. 1 (2018): Srinakharinwirot University Dental Journal; 75-89
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/10219/8548
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/10220
2018-06-28T16:54:24Z
swudentj:Review+articles
การรักษาทางทันตกรรมจัดฟันในผู้ป่วยโรคปริทันต์
ธารีจารุ, อารยา
ตั้งคุณสมบัติ, ศรินทร
บทคัดย่อในปัจจุบันมีผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่เป็นโรคปริทันต์เข้ารับการรักษาเพื่อแก้ไขความผิดปกติของการสบฟันด้วยทันตกรรมจัดฟันเพิ่มมากขึ้นโดยสิ่งสำคัญของการรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ คือ การให้การวินิจฉัยที่เหมาะสมก่อนการรักษารวมถึงความจำเป็นของการสื่อสารและการวางแผนการรักษาร่วมกันระหว่างทันตแพทย์สหสาขาโดยวัตถุประสงค์ของบทความนี้เพื่อทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันในผู้ป่วยโรคปริทันต์ เพื่อให้ทันตแพทย์ได้ตระหนักถึงแนวทางการจัดการ ตลอดจนการวางแผนการรักษาและลำดับขั้นตอนการรักษาที่มีความถูกต้องเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายคำสำคัญ: โรคปริทันต์, ทันตกรรมจัดฟัน
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2018-06-30
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/10220
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 11 No. 1 (2018): Srinakharinwirot University Dental Journal; 90-97
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/10220/8549
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/10221
2018-06-28T16:54:24Z
swudentj:Review+articles
การวางแผนการรักษาทางทันตกรรมในผู้ป่วยที่มีแนวโน้มเกิด เลือดออกผิดปกติ
เชียงเงินธัญกุล, กิจธนัสถ์
บทคัดย่อการรักษาทางทันตกรรมมีโอกาสทำให้เกิดเลือดออก โดยทั่วไปสามารถห้ามเลือดได้และไม่เป็นอันตรายแต่ในผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น มีโรคประจำตัว ได้รับยาที่มีผลทำให้เกิดเลือดออกง่าย จะมีแนวโน้มเกิดเลือดออกผิดปกติมากขึ้น ดังนั้น ทันตแพทย์จึงควรประเมินผู้ป่วยและหัตถการอย่างรอบคอบ บทความนี้เป็นการทบทวนเกี่ยวกับกระบวนการหยุดเลือด ภาวะเลือดออกผิดปกติที่พบได้บ่อย การตรวจเบื้องต้น การวางแผนการรักษาทางทันตกรรมตามสาเหตุ และวัสดุห้ามเลือด ซึ่งทันตแพทย์สามารถนำไปประยุกต์ใช้ทางคลินิกได้ตามความเหมาะสมคำสำคัญ: เลือดออกผิดปกติ การรักษาทางทันตกรรม
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2018-06-30
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/10221
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 11 No. 1 (2018): Srinakharinwirot University Dental Journal; 98-120
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/10221/8550
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/10699
2024-01-23T07:59:51Z
swudentj:Review+articles
ผลกระทบของการกัดฟันต่อการรักษาทางทันตกรรม
ภู่เกียรติ, ฟ้าใส
บทคัดย่อ การกัดฟัน หมายถึงการขบเน้นฟัน และการบดฟัน จัดเป็นการทำงานนอกเหนือหน้าที่ปกติของการ บดเคี้ยว เกิดขึ้นได้ทั้งขณะตื่น และขณะหลับ การกัดฟันสามารถส่งผลกระทบทั้งต่อระบบบดเคี้ยว และการรักษาทางทันตกรรม วัตถุประสงค์ของบทความนี้ เพื่อทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของการกัดฟันต่อการรักษาทางทันตกรรมในงานทันตกรรมหัตถการ การรักษาเอ็นโดดอนต์ การรักษา ทันตกรรมประดิษฐ์ การรักษาปริทันต์ เพื่อให้ทันตแพทย์ได้ตระหนักถึงผลกระทบดังกล่าว รวมทั้ง วางแผนการรักษา ป้องกันผลกระทบจากการกัดฟัน และให้การรักษาที่เหมาะสมในผู้ป่วยที่มีการกัดฟัน ซึ่งจะทำให้ลดการรักษาที่ไม่จำเป็น รวมถึงลดเวลาและค่าใช้จ่าย คำสำคัญ: กัดฟัน, ผลกระทบ, การรักษาทางทันตกรรม
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2018-12-27
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/10699
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 11 No. 2 (2018): Srinakharinwirot University Dental Journal; 55-67
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/10699/8873
Copyright (c) 2024 Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811)
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/10700
2024-01-23T07:59:51Z
swudentj:Review+articles
การรักษาทางทันตกรรมจัดฟันในผู้ป่วยที่มีการหายไปของฟันตัดหน้าล่าง
ธนพิชญ์พงษ์, รติรัตน์
ไชยรักษ์, พิชญา
บทคัดย่อ การหายไปของฟันตัดหน้าล่างจำนวนหนึ่งหรือสองซี่ มีสาเหตุมาจากความผิดปกติแต่กำเนิดหรือได้รับการถอนฟัน สภาวะเหล่านี้มีผลต่อการวางแผนการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันทั้งสิ้น การศึกษานี้เป็นการทบทวนการศึกษาที่ผ่านมา เกี่ยวกับเทคนิคการให้การรักษาทางทันตกรรมจัดฟันที่แตกต่างกัน การวางแผนการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันมี 2 วิธีคือ การคงสภาพช่องว่างหรือเปิดช่องว่างเพื่อใส่ฟัน และการปิดช่องว่าง ทั้งนี้การเลือกแผนการรักษาขึ้นกับจำนวนฟันตัดหน้าล่างที่หายไป การประเมินรูปใบหน้าทั้งด้านหน้าและด้านข้าง การประเมินการสบฟันทั้งบริเวณฟันหน้าและฟันหลัง ทิศทางการเจริญเติบโตในผู้ป่วยที่ยังมีการเจริญเติบโตอยู่ รวมถึงข้อดีและข้อเสียของแต่ละแผนการรักษา เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของความสวยงามของใบหน้าและการสบฟัน คำสำคัญ: การหายไปของฟันตัดหน้าล่าง, การจัดฟัน
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2018-12-27
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/10700
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 11 No. 2 (2018): Srinakharinwirot University Dental Journal; 68-78
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/10700/8876
Copyright (c) 2024 Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811)
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/11468
2019-07-30T11:43:23Z
swudentj:Review+articles
ภาวะยิ้มเห็นเหงือก
ไตรบำรุงสุข, พิชามญชุ์
สมบุญธรรม, นงลักษณ์
บทคัดย่อ การมีภาวะยิ้มเห็นเหงือก (Gummy smile) ส่งผลต่อความสวยงามของใบหน้าโดยเฉพาะเวลายิ้มคำจำกัดความของภาวะดังกล่าว คือการยิ้มเห็นแถบเหงือกเหนือคอฟันหน้าบนมากกว่า 3 มิลลิเมตรขึ้นไป ภาวะยิ้มเห็นเหงือกอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ ดังนี้ การมีขากรรไกรบนยาวในแนวดิ่งมากกว่าปกติ (Maxillary verticalexcess) การดึงออกของฟันหน้าบน (Extrusion of upper anterior teeth) ที่มากกว่าปกติ การมีแถบเหงือกบนกว้างมากกว่าปกติ (Gingival excess) การมีริมฝีปากบนสั้นกว่าปกติ (Short upper lip) การมีกล้ามเนื้อริมฝีปากบนหดตัวมากกว่าปกติ (Hypercontraction of upper lip muscles) และการมีภาวะบกพร่องของผนังกลางจมูก (nasal septum dysplasia) นอกจากนี้อายุและเพศยังเป็นปัจจัยร่วมในการมีภาวะยิ้มเห็นเหงือกอีกด้วยสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักษาภาวะยิ้มเห็นเหงือก คือ การวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง ร่วมกับการให้การรักษาแบบสหสาขา เช่น การผ่าตัดกระดูกขากรรไกรร่วมกับการจัดฟัน การจัดฟัน การทำศัลย์ปริทันต์ หรือ การฉีดโบทอกซ์(Botulinum injection) และการเสริมกระดูกอ่อนบริเวณผนังกลางจมูกคำสำคัญ: ภาวะยิ้มเห็นเหงือก แนวยิ้ม
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2019-06-28
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/11468
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 12 No. 1 (2019): Srinakharinwirot University Dental Journal; 95-106
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/11468/9679
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/11469
2019-07-30T11:43:23Z
swudentj:Review+articles
หลักยึดเซอร์โกเนียและการยึดติด
วัฒนเสริมกิจ, กมลพร
พลานุเวช, มะลิ
บทคัดย่อ งานวิจัยพื้นฐานและทางคลินิกเกี่ยวกับรากฟันเทียมในอดีตมักมุ่งเน้นในเรื่องการเชื่อมประสานกับกระดูกได้และการสร้างการทำงานของระบบบดเคี้ยวขึ้นมาใหม่ในผู้ป่วยที่มีสันเหงือกว่าง ทันตกรรมรากเทียมมีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง หลักยึดเซอร์โกเนียได้รับการพิสูจน์ให้เป็นทางเลือกที่ดีเพื่อมาแทนหลักยึดดั้งเดิมที่ทำมาจากไททาเนียม เนื่องจากคุณสมบัติที่ยอมรับได้ทางเชิงกลและคุณสมบัติที่เหนือกว่าทางชีวภาพ, ความสวยงาม และคุณสมบัติทางสี ดังนั้นความเข้าใจของทันตแพทย์ผู้ให้การรักษา เรื่องหลักยึดเซอร์โกเนีย กระบวนการผลิตรวมถึงการยึดอยู่ของวัสดุบูรณะบนหลักยึดเซอร์โกเนียร์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี คำสำคัญ: เซอร์โกเนีย หลักยึดรากเทียม การยึดติด
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2019-06-28
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/11469
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 12 No. 1 (2019): Srinakharinwirot University Dental Journal; 107-117
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/11469/9680
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/12076
2020-09-21T10:07:12Z
swudentj:Review+articles
Mucous membrane pemphigoid; Etiology, diagnosis and treatment
Sanguansin, Nutchaporn
Sappayatosok, Kraisorn
AbstractMucous membrane pemphigoid (MMP) is a chronic autoimmune subepithelial vesiculobullousdisorder that predominantly affects the mucous membranes more frequently than the skin. Severaltarget antigens in basement membrane zone have been identified in MMP. It is characterized bylinear deposition of IgG, IgA or C3 along the basement membrane zone. The disease severity andextension is highly variable. The patients may present with only mucosal or skin lesions or combinedmultiple sites. In the oral cavity, the most frequently affected site is the gingiva presented asdesquamative gingivitis. The diagnosis of MMP is mainly based on clinical findings, histopathologicand immunofluorescence features. There is no gold standard therapy for MMP. The treatmentshould be individualized based on the sites of involvement, clinical severity and disease progression.Corticosteroids and immunosuppressive agents are the mainstay of treatment. The significantcomplication is scarring of the oropharyngeal and ocular mucous membranes which can lead tostrictures and blindness. Multidisciplinary approach is necessary for the diagnosis and managementof MMP. This article reviews the epidemiology, pathophysiology, clinical presentation, diagnosis andtreatment of MMP.Keywords: Autoimmune, Mucous membrane pemphigoid, Corticosteroids, Diagnosis, Treatment
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2019-12-26
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/12076
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 12 No. 2 (2019): Srinakharinwirot University Dental Journal; 79-94
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/12076/10025
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/12674
2020-12-22T12:01:17Z
swudentj:Review+articles
สารลดภาวะเนื้อฟันไวเกิน
คล้ายศิริ, อวิรุทธ์
กระจ่างตา, นันทวรรณ
พจน์มนต์ปิติ, สูงกฤษฎิ์
วุฒิคุณ, มินตรา
บทความปริทัศน์เรื่องสารลดภาวะเนื้อฟันไวเกินจะกล่าวถึงสาเหตุและกลไกของการเกิดอาการเสียวฟันชนิดของผลิตภัณฑ์หรือสารลดภาวะเนื้อฟันไวเกิน กลไกการทำงานของสารลดภาวะเนื้อฟันไวเกิน ตลอดจนผลที่ได้จากการรักษาด้วยสารลดภาวะเนื้อฟันไวเกิน เพื่อให้ทันตแพทย์และผู้ที่สนใจมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางคลินิกได้อย่างถูกต้องคำสำคัญ: สารลดภาวะเนื้อฟันไวเกิน ภาวะเนื้อฟันไวเกิน เสียวฟัน Dentin desensitizing agentAbstractThis review article “dentin desensitizing agent” describes of the etiology and mechanism of dentin hypersensitivity, types/ products of dentin desensitizing agent, mechanism of dentin desensitizing agent and their effects after dentin desensitizing agent application. This review article will help dentists and clinicians improve their understanding of dentin desensitizing agent and to apply in clinical management.Keywords: Dentin desensitizing agent, Dentin hypersensitivity, Tooth sensitivity ว.ทันต.มศว ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2563 หน้า 102-12.SWU Dent J. 2020;13(1):102-12.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2020-06-26
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/12674
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 13 No. 1 (2020): Srinakharinwirot University Dental Journal; 102-112
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/12674/10346
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/12924
2022-01-20T17:00:20Z
swudentj:Review+articles
การฟังอย่างลึกซึ้งในการบริบาลทันตกรรมพร้อมมูล
แมนสุมิตร์ชัย, ศรัณภัสร์
ศุภอมรกุล, สิริรัก
มโนพัฒนกุล, สมชัย
บูรณชาติ, นัยนา
บทคัดย่อ“การฟังอย่างลึกซึ้ง” เป็นทักษะที่มีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน อันเนื่องมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของปัญญาประดิษฐ์ที่มีแนวโน้มว่าอาจได้รับการพัฒนาจนแม่นยำเหนือมนุษย์ การหยุดชะงักอันเนื่องมาจากดิจิตอล(Digital disruption) จึงเปิดโอกาสให้ทันตแพทย์ได้พัฒนาและฝึกทักษะมนุษย์ที่สำคัญซึ่งมีอยู่แล้วในตัวทุกคนนั่นคือ “การฟังอย่างลึกซึ้ง” เพื่อนำมาส่งเสริมการบริบาลทางทันตกรรมพร้อมมูล การทบทวนวรรณกรรมนี้รวบรวม ความหมายของการฟัง และอธิบายการฟังในระดับที่แตกต่างกัน นำไปสู่การอธิบายการฟังอย่างลึกซึ้ง หลักการในการฝึกการฟังอย่างลึกซึ้ง ปัญหาและอุปสรรค ที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อลองฝึกปฏิบัติและการนำไปใช้โดยหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เกิดความเข้าใจและสามารถนำหลักการไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันจนรู้เท่าทันและสามารถนำมาเป็นส่วนสำคัญในการบริบาลทันตกรรมพร้อมมูล หรืออาจต่อยอดนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาบุคลากรหรือองค์กรทางด้านทันตกรรม การฟังอย่างลึกซึ้งนี้ เมื่อฝึกฝนจนคล่องแคล่วจะนำไปสู่การส่งเสริมวิธีการสื่อสารสำหรับการบริบาลทางทันตกรรมพร้อมมูลในยุคดิจิตอลนี้ให้มีประสิทธิภาพและเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ในท้ายที่สุดอาจนำไปสู่การลดความขัดแย้งและการฟ้องร้องคดีต่อทันตแพทย์ด้วยคำสำคัญ: การฟังอย่างลึกซึ้ง การรับรู้ทางเสียง การบริบาลทันตกรรมพร้อมมูล ความสัมพันธ์ระหว่างทันตแพทย์และผู้ป่วย Deep Listening in Comprehensive Dental CareSarunpat Mansumitchai Sirirak Supa-amonkul Somchai Manopatanakul Naiyana BuranachadAbstractThe human skill of “deep listening” is engrossing especially in the modern world of advancingdental artificial intelligent (AI) technology. Dental digital disruption also enforces the involvement ofdeep listening philosophy reinforcing comprehensive dental care. This humane skill exists in everydentist and it is impossible for AI to replicate. This review articles commenced with the definitionand level of listening in general. This fundamental basis led to the clarification of the tangible meaningof “deep listening”. It was then followed by the basic training, barrier and coaching to this deeplistening training and application. Optimistically, with indefatigable practising, this article may promoteempathy leading to awareness and application in daily life and then comprehensive dental care.Moreover, it will promote co-workers’ engagement and vigilance. This skill will pave way to aneffective empathetic communication in comprehensive dental care. Ultimately, this will solve dentalargument and litigation.Keywords: Deep listening, Auditory perception, Comprehensive dental Care, Dentist-patientrelations. ว.ทันต.มศว ปีที่ 14 ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2564 หน้า 91-104 .SWU Dent J. 2021;14(2):91-104.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2021-11-30
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/12924
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 14 No. 2 (2021): Srinakharinwirot University Dental Journal (Online); 91-104
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/12924/11375
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/12994
2020-12-22T11:57:10Z
swudentj:Review+articles
การจัดการรอยโรคฟันผุระยะเริ่มต้นโดยเทคนิคเรซินอินฟิลเทรชั่น
คล้ายศิริ, อวิรุทธ์
รัตนบุรี, จินต์จุฑา
ธำรงค์อนันต์สกุล, นิยม
ศรีอัมพร, ตุลย์
กระจ่างตา, นันทวรรณ
ข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดการรอยโรคฟันผุในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จากเดิมที่ทำการรักษาแบบดั้งเดิมเปลี่ยนเป็นการรักษาแบบไม่รุกล้ำหรือการรักษาแบบอนุรักษ์ การจัดการรอยโรคฟันผุระยะเริ่มต้นมีเป้าหมายเพื่อหยุดการดำเนินของโรคและปรับปรุงความสวยงามของฟัน เรซินอินฟิลเทรชั่นเป็นวิธีการจัดการแบบอนุรักษ์ซึ่งจะเติมเต็มรูพรุนขนาดเล็กในรอยโรคฟันผุระยะเริ่มต้น และสามารถปรับปรุงความสวยงามของฟันได้ไปพร้อม ๆ กัน บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงถึงพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ หลักการของเรซินอินฟิลเทรชั่นและความสำคัญของการใช้งานทางคลินิก โดยจะสามารถทำให้ทันตแพทย์และผู้ที่สนใจมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรซินอินฟิลเทรชั่น และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางคลินิกได้อย่างถูกต้องคำสำคัญ: รอยโรคฟันผุระยะเริ่มต้น เรซินอินฟิลเทรชั่น รอยโรคจุดขาว Management of Initial Carious Lesion by Resin Infiltration TechniqueAbstractThe modern consensus in management of carious lesions has dramatically changed from traditional restorative treatment to the non-invasive or minimal invasive treatment. The management of initial carious lesions should aim at arresting the progression of initial carious lesions and improving the esthetics of a tooth. Resin infiltration is a micro-invasive method that fills the initial lesion pores and stops lesion development, improving tooth esthetics. The purposes of this review were to present the scientific basis, the principles of the resin infiltration concept and to discuss the essential clinical applications. This review article will help dentists and clinicians improve their understanding of resin infiltration and to apply in clinical management.Keywords: Initial carious lesion, Resin infiltration, White spot lesion ว.ทันต.มศว ปีที่ 13 ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2563 หน้า 65-76.SWU Dent J. 2020;13(2):65-76.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2020-11-29
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/12994
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 13 No. 2 (2020): Srinakharinwirot University Dental Journal; 65-76
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/12994/10664
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/12995
2020-12-22T11:57:10Z
swudentj:Review+articles
การจัดการฟันกรามล่างแท้ซี่ที่สองล้มเอียง : สาเหตุการเกิด การวินิจฉัย และการรักษา
ทรัพย์มณีนุกูล, ญาณพัฒน์
ไชยรักษ์, พิชญา
วรชาติ, พลพิทยา
การล้มเอียงของฟันกรามล่างแท้ซี่ที่สองเป็นลักษณะที่สามารถพบได้บ่อยในทางคลินิก ซึ่งสาเหตุการเกิดที่พบได้บ่อย คือ การล้มเอียงจากการสูญเสียฟันที่อยู่หน้าต่อฟันซี่นั้นๆ นอกจากนี้อาจเกิดจากการขึ้นของฟันที่ผิดปกติได้เช่นกัน หากละเลยไม่ได้รับการแก้ไขจะทำให้เกิดปัญหาในช่องปากต่างๆ เช่น ฟันผุ โรคปริทันต์ และการสูญเสียฟันได้ ดังนั้นการตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่แรกเริ่มพบเห็นร่วมกับการวินิจฉัยแยกโรคและทราบสาเหตุการเกิดได้อย่างถูกต้องจะนำไปสู่การวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งแนวทางการรักษาอาจแก้ไขได้ด้วยวิธีการทางทันตกรรมจัดฟันเพียงอย่างเดียวหรือร่วมกับวิธีการทางศัลยกรรมก็ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของการล้มเอียงของฟันกรามซี่นั้นๆคำสำคัญ: ฟันกรามล้มเอียง การตั้งฟันด้วยวิธีการทางทันตกรรมจัดฟัน การตั้งฟันด้วยวิธีการทางทันตกรรมจัดฟันร่วมกับวิธีการทางศัลยกรรม Mandibular Second Molar Tilting Management: Etiology, Diagnosis and TreatmentAbstractA mandibular second molar tilting can often be found in clinical practice. The most common cause is a missing of the tooth anteriorly. In addition, this can also be caused by an unfavorable of the tooth eruption. An untreated molar tilting can affect many oral problems such as dental caries, periodontitis and losing of teeth. Thus, an early detection with a precisely differential diagnosis of the cause can lead to a proper treatment planning which can be orthodontic uprighting alone or combined with surgical approaches depending on the characteristic and severity of the molar tilting.Keywords: Molar tilting, Orthodontic uprighting, Orthodontic uprighting combined with surgicalapproach ว.ทันต.มศว ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2563 หน้า 77-93.SWU Dent J. 2020;13(2):77-93.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2020-09-29
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/12995
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 13 No. 2 (2020): Srinakharinwirot University Dental Journal; 77-93
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/12995/10665
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/12996
2020-12-22T11:57:10Z
swudentj:Review+articles
Pathophysiology of Dentine Hypersensitivity
Rotpenpian, Nattapon
dentine hypersensitivity
pathophysiology
hypersensitivity
molecular mechanism
immune response
On account of novel insights of dentine hypersensitivity implications on the pathophysiologyof dentine hypersensitivity. The dentine hypersensitivity is an increase in pain sensation whichaffects to quality of life. The pathophysiology of dentine hypersensitivity had still studied; therefore,this article will also focus on dentine hypersensitivity effects on the physiology of disease, immunesystems, and related oral diseases, particularly physiology of the diseases and molecular mechanismson dentine hypersensitivity by periodontal disease, tooth defects, and orthodontic tooth movement.Keywords: Dentine hypersensitivity, Pathophysiology, Hypersensitivity, Molecular mechanism,Immune response ว.ทันต.มศว ปีที่ 13 ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2563 หน้า 94-103.SWU Dent J. 2020;13(2):94-103.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2020-09-29
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/12996
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 13 No. 2 (2020): Srinakharinwirot University Dental Journal; 94-103
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/12996/10666
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/13048
2021-05-24T18:16:30Z
swudentj:Review+articles
การจัดการความผิดปกติบริเวณขมับ-ขากรรไกร ในผู้ป่วยจัดฟัน
ไชยรักษ์, พิชญา
วรชาติ, วีรดา
ความผิดปรกติบริเวณขมับ-ขากรรไกร
การจัดการทีเอ็มดี
ทันตกรรมจัดฟัน
บทคัดย่อความผิดปกติบริเวณขมับ-ขากรรไกร (ทีเอ็มดี) ทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือการทำงานของระบบบดเคี้ยวที่ผิดปกติ มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยร่วมกัน อาการทีเอ็มดีพบมากในผู้ป่วยอายุ 20-40 ปี ซึ่งตรงกับช่วงอายุที่ผู้ป่วยมาปรึกษาและเข้ารับการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันรวมถึงระยะคงสภาพฟัน ดังนั้นทันตแพทย์จัดฟันจึงควรมีความรู้ เกี่ยวกับการจัดการทีเอ็มดี ตั้งแต่การซักประวัติอาการ การตรวจในช่องปาก การตรวจนอกช่องปากการวินิจฉัยโรค การให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนสำหรับผู้ป่วยเพื่อบรรเทาอาการและการรักษาแบบอนุรักษ์ ทันตแพทย์จัดฟันควรจะสามารถประเมินความรุนแรงของอาการและวางแผนการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายที่มีอาการทีเอ็มดี ทั้งก่อนการรักษา ระหว่างการรักษา และภายหลังการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันคำสำคัญ: ความผิดปกติบริเวณขมับ-ขากรรไกร การจัดการทีเอ็มดี ทันตกรรมจัดฟัน Management of Temporomandibular Disorders in Orthodontic PatientPitchaya Chaiyaraksa Weerada VorachartAbstractTemporomandibular Disorder (TMD) causes pain or dysfunction in the masticatory systemand has multifactorial etiologic factors. Most TMD symptoms are found in patients between 20-40years old. At this age range, the patients often visit their dentists for an orthodontic consultationand have an orthodontic treatment which also includes a retention phase. Therefore, orthodontistsshould have knowledge of TMD management including history taking, intraoral and extraoralexamination, diagnosis, home care instruction to alleviate symptoms and conservative treatments.Orthodontists should be able to evaluate disorder severity and make an appropriate treatment planfor each patient before, during, and after an orthodontic treatment.Keywords: Temporomandibular disorders, TMD management, Orthodontics ว.ทันต.มศว ปีที่ 14 ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2564 หน้า 91-104. SWU Dent J. 2021;14(1):91-104.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2021-04-07
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/13048
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 14 No. 1 (2021): Srinakharinwirot University Dental Journal; 91-104
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/13048/10957
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/13358
2022-01-20T17:00:20Z
swudentj:Review+articles
Management of Mucous Membrane Pemphigoid
Sanguansin, Nutchaporn
Sappayatosok, Kraisorn
AbstractMucous membrane pemphigoid (MMP) is a chronic autoimmune subepithelial vesiculobullousdisorder predominantly affects the mucous membranes more frequently than the skin. Several targetantigens in basement membrane zone have been identified in MMP. The disease severity and extensionare highly variable. The patients may present with only mucosal or skin lesions or combined multiplesites. In the oral cavity, the most frequently affected site is the gingiva presented as desquamativegingivitis. The diagnosis of MMP is mainly based on clinical findings, histopathologic andimmunofluorescence features. The treatment should be individualized based on the sites of involvement,clinical severity and disease progression because there is no gold standard therapy for MMP.Patients with mild disease can be treated effectively with topical therapy, such as topical corticosteroidsor topical calcineurin inhibitors. In high-risk patients with multiple involving sites or rapid progression,systemic corticosteroids in combination with immunosuppressive drugs may be added to topicaltreatment. The significant complication is scarring of the oropharyngeal and ocular mucousmembranes which can lead to strictures and blindness. Multidisciplinary approach is necessary forthe diagnosis and management of MMP. This article mainly focuses on the management of MMP.Keywords: Autoimmune, Mucous membrane pemphigoid, Corticosteroids, Immunosuppressants,Managementแนวทางในการจัดการมิวคัสเมมเบรนเพมฟิกอยด์ณัฐชาภรณ์ สงวนสิน ไกรสร ทรัพยะโตษกบทคัดย่อโรคมิวคัสเมมเบรนเพมฟิกอยด์เป็นโรคกลุ่มภูมิต้านทานเนื้อเยื่อตนเองแบบเรื้อรัง ซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใต้ชั้นเยื่อบุผิวที่แตกออกเป็นแผล มักพบที่บริเวณเยื่อเมือกต่าง ๆ ได้บ่อยกว่าบริเวณผิวหนัง แอนติเจนที่เป็นเป้าหมายหลักมีหลายชนิดและอยู่บริเวณชั้นเยื่อฐาน ความรุนแรงและการลุกลามของโรคมีความหลากหลายผู้ป่วยอาจมีรอยโรคเฉพาะในช่องปาก หรือผิวหนัง หรืออาจพบรอยโรคที่เยื่อเมือกอื่น ๆ ของร่างกาย สำหรับในช่องปากจะพบรอยโรคได้บ่อยที่สุดที่บริเวณเหงือก โดยมีลักษณะเป็นเหงือกอักเสบลอกหลุด การวินิจฉัยจะพิจารณาจากลักษณะทางคลินิก ลักษณะทางจุลพยาธิวิทยา และการตรวจอิมมูโนฟลูออเรสเซนต์ ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาที่เป็นมาตรฐานสำหรับโรคมิวคัสเมมเบรนเพมฟิกอยด์ การรักษาจะพิจารณาเป็นรายบุคคล ขึ้นกับตำแหน่ง ความรุนแรง และการดำเนินของโรค ผู้ป่วยที่มีความรุนแรงของโรคไม่มากจะให้การรักษาด้วยยาทาเฉพาะที่ ได้แก่สเตียรอยด์เฉพาะที่ หรือยาต้านแคลซินิวริน สำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้ป่วยที่พบรอยโรคที่เยื่อเมือกหลายตำแหน่งของร่างกาย หรือในรายที่มีการดำเนินของโรคเร็วจะให้การรักษาเพิ่มด้วยยาทางระบบ ได้แก่ สเตียรอยด์ทางระบบร่วมกับยากดภูมิคุ้มกัน ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ ทำให้เกิดแผลเป็นที่เยื่อเมือกบริเวณคอหอยหลังช่องปากและตา ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดการตีบแคบของหลอดอาหารและตาบอดได้ตามลำดับ ดังนั้นการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมิวคัสเมมเบรนเพมฟิกอยด์ ทันตแพทย์จึงควรให้การรักษาร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยโรครวมถึงการดูแลรักษาผู้ป่วย บทความนี้ได้รวบรวมและเรียบเรียงเกี่ยวกับแนวทางการรักษาโรคมิวคัสเมมเบรนเพมฟิกอยด์ทั้งหมดในปัจจุบันคำสำคัญ: โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง มิวคัสเมมเบรนเพมฟิกอยด์ คอร์ติโคสเตียรอยด์ ยากดภูมิคุ้มกันการจัดการ ว.ทันต.มศว ปีที่ 14 ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2564 หน้า 105-126.SWU Dent J. 2021;14(2):105-126.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2021-11-30
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/13358
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 14 No. 2 (2021): Srinakharinwirot University Dental Journal (Online); 105-126
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/13358/11348
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/13432
2021-05-24T18:16:30Z
swudentj:Review+articles
การเสียวฟันหลังการบูรณะด้วยวัสดุบูรณะฟันเรซินคอมโพสิต
ลีลาพงศ์ฤทธิ์, ศีลัสยา
กระจ่างตา, นันทวรรณ
คล้ายศิริ, อวิรุทธ์
บทคัดย่อบทความปริทัศน์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมสาเหตุของการเกิดอาการเสียวฟันหลังบูรณะด้วยวัสดุเรซินคอมโพสิตซึ่งมักพบได้มาก โดยจะอธิบายถึงสาเหตุ การแก้ไข และการป้องกันไม่ให้เกิดอาการเสียวฟัน หลังจากบูรณะด้วยวัสดุชนิดนี้ ทันตแพทย์ผู้ทำการบูรณะควรศึกษาถึงคุณสมบัติ และเทคนิคขั้นตอนการบูรณะอย่างละเอียด เพื่อป้องกันปัญหาการเสียวฟันที่อาจจะเกิดขึ้นได้คำสำคัญ: สารยึดติด เรซินคอมโพสิต ภาวะเสียวฟัน Post-Operative Sensitivity in Resin Composite RestorationSeelasaya Leelaponglit Nantawan Krajangta Awiruth Klaisiri AbstractThis study is a review of published papers on post-operative sensitivity causing resin compositerestoration. The review article provides the causes, solutions and prevention of this complication,which will be useful for dentists to achieve a successful restorative treatment. The properties andproper restorative techniques is necessary for prevention any possible symptoms in the treatment.Keywords: Adhesive, Resin composite, Tooth sensitivity ว.ทันต.มศว ปีที่ 14 ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2564 หน้า 81-90. SWU Dent J. 2021;14(1):81-90.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2021-05-24
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/13432
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 14 No. 1 (2021): Srinakharinwirot University Dental Journal; 81-90
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/13432/10978
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/13915
2022-04-11T15:26:18Z
swudentj:Review+articles
Corrosion in Dental Implant
Navasri, Chutima
Khemthong, Kantika
Angkasith, Pattarika
Chaijareenont, Pisaisit
biocompatibility
corrosion
dental implants corrosion
titanium
At the present, dental implants have become a part of dental treatment to replace missingteeth. Dental implants are mainly made of titanium or its alloy because of proper physical, chemical,and biological properties that provide a high resistance to corrosion due to protective surfacetitanium dioxide layer. However, the titanium dioxide layer can be damaged when dental implantscontact with metal implant abutment and prosthesis in oral environment for a long period of timewhich leads to corrosion in dental implant. Corrosion could be influenced by various factors, includingmicroorganisms around dental implant, acidic environment from food or chemical agents, and metalusage with electric potential difference may influence corrosion.Metallic particles released from corrosion affect various aspects such as clinical symptoms,tissue pigmentation, cellular response leading to bone loss, and delayed fracture of dental implant.Therefore, properly chosen metal alloy for implant abutment and dental crown altogether with pHcontrol in oral environment are the important factors to decrease corrosion of dental implants.Keywords: Biocompatibility, Corrosion, Dental implants corrosion, Titanium SWU Dent J. 2022;15(1):108-23.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2022-04-11
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/13915
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 15 No. 1 (2022): Srinakharinwirot University Dental Journal (Online); 108-123
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/13915/11640
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/14313
2022-04-11T15:26:18Z
swudentj:Review+articles
เอสพีอาร์จีเทคโนโลยีในงานทันตกรรม: บทความปริทัศน์แบบกระชับได้ใจความ
คล้ายศิริ, อวิรุทธ์
วงษ์สังข์, จารุกฤษ
ลีลาอุดม, ธนัช
รักษ์มณี, ธนาศักดิ์
ลีลาพงศ์ฤทธิ์, ศีลัสยา
กระจ่างตา, นันทวรรณ
พรีรีแอคเต็ดกลาสส์ไอโอโนเมอร์ (พีอาร์จี) เทคโนโลยี เป็นเทคโนโลยีการสร้างวัสดุอัดแทรกชนิดใหม่ที่สามารถปลดปล่อยไอออนได้ 6 ชนิด ประกอบด้วยโซเดียมไอออน สตรอนเชียมไอออน อะลูมิเนียมไอออนโบรอนไอออน ซิลิกาไอออน และฟลูออรีนไอออน โดยเรียกวัสดุอัดแทรกชนิดนี้ว่า วัสดุอัดแทรกพีอาร์จี ซึ่งมีสมบัติช่วยส่งเสริมการคืนกลับแร่ธาตุ ลดการสูญเสียแร่ธาตุ ต่อต้านสภาพความเป็นกรด ยับยั้งการเกิดคราบจุลินทรีย์ และยับยั้งแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคฟันผุ ดังนั้นจึงมีการนำวัสดุอัดแทรกพีอาร์จีใส่ในวัสดุทันตกรรมเพื่อหวังผลจากสมบัติข้างต้น โดยบทความปริทัศน์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงถึงพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ สมบัติของวัสดุอัดแทรกพีอาร์จี และการประยุกต์ใช้วัสดุอัดแทรกพีอาร์จีในงานทันตกรรมคำสำคัญ: วัสดุทางทันตกรรม วัสดุอัดแทรก พรีรีแอคเต็ดกลาสส์ไอโอโนเมอร์ S-PRG Technology in Dentistry: A Concise ReviewAwiruth Klaisiri Jarukit Vongsang Thanach leelaudom Thanasak Rakmanee Seelassaya Leelaponglit Nantawan KrajangtaAbstractPre-reacted glass-ionomer (PRG) technology is a technology that produces new filler materials,which can release six ions including Sodium ion, Strontium ion, Aluminium ion, Boron ion, Silicaion, and Fluorine ion so this filler material is called PRG filler. Its properties are to help promoteremineralization, reduce demineralization, have acid buffering capacity, an anti-plaque effect, andbacteriostatic effect on dental caries prevention. Therefore, PRG filler has been incorporated intodental material. The objectives of this review article are to evaluate the fundamental science,properties, and applications of PRG filler in dentistry.Keywords: Dental materials, Filler, Pre-reacted glass-ionomer ว.ทันต.มศว ปีที่ 15 ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2565 หน้า 93-107. SWU Dent J. 2021;15(1):93-107.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2022-04-01
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/14313
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 15 No. 1 (2022): Srinakharinwirot University Dental Journal (Online); 93-107
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/14313/11647
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/14477
2022-08-29T04:39:30Z
swudentj:Review+articles
Interproximal Enamel Reduction: What Clinicians Should Know
Suwanwitid, Preeya
Changsiripun, Chidsanu
Jaruprakorn, Tanan
Komolpis, Ruangrat
Chengprapakorn, Somsak
Kanpittaya, Pimsiri
AbstractInterproximal enamel reduction (IPR) is an orthodontic treatment option for gaining space to correct mild to moderate crowding malocclusions. Presently, there are many IPR instruments and techniques that are available for clinicians. No matter which instruments or techniques of IPR are used, the important thing is that clinicians should be aware of the considerations, advantages, anddisadvantages before performing IPR.Keywords: Interproximal enamel reduction (IPR), Orthodontic treatment, IPR instruments and techniques
SWU Dent J. 2022;15(2):102-112.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2022-07-01
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/14477
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 15 No. 2 (2022): Srinakharinwirot University Dental Journal (Online); 102-110
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/14477/11924
Copyright (c) 2022 Srinakharinwirot University Dental Journal
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/14478
2022-08-29T04:39:30Z
swudentj:Review+articles
การสบฟันลึก: สาเหตุ การวินิจฉัยและแนวทางการรักษาทาง ทันตกรรมจัดฟัน
กันนะ, ชนิดา
ไชยรักษ์, พิชญา
บทคัดย่อการสบฟันลึกเป็นการสบฟันผิดปกติชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อย มีสาเหตุจากปัจจัยทางพันธุกรรม ปัจจัยสิ่งแวดล้อม หรือเกิดร่วมกัน ทำให้เกิดปัญหาต่อผู้ป่วยทั้งในแง่ของการใช้งานและความสวยงาม การรักษาฟันสบลึกได้แก่ การเคลื่อนฟันตัดเข้าสู่เบ้าฟัน การเคลื่อนฟันหลังสูงกว่าเบ้าฟัน การเอียงตัวมาด้านหน้าของฟันตัด หรือร่วมกับ การผ่าตัดขากรรไกร การวางแผนการรักษาจึงขึ้นอยู่กับความรุนแรงของฟันสบลึกและอายุของผู้ป่วย ดังนั้น ทันตแพทย์จัดฟันจึงต้องเข้าใจสาเหตุของการสบฟันลึกเพื่อใช้ในการวินิจฉัยโรคและการวางแผนรักษาทางทันตกรรมจัดฟันที่แม่นยำเพื่อให้การรักษาเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละรายคำสำคัญ: การสบฟันลึก สาเหตุ การวินิจฉัย การวางแผนการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน
ว.ทันต.มศว ปีที่ 15 ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 หน้า 111-124.SWU Dent J. 2022;15(2):111-124.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2022-07-01
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/14478
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 15 No. 2 (2022): Srinakharinwirot University Dental Journal (Online); 111-124
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/14478/11925
Copyright (c) 2022 Srinakharinwirot University Dental Journal
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/14479
2022-08-29T04:39:30Z
swudentj:Review+articles
ภาวะกระดูกขากรรไกรตายเนื่องจากรังสีและภาวะกระดูกขากรรไกร ตายเนื่องจากยา: พยาธิสรีรวิทยา การวินิจฉัย และการจำแนก ความรุนแรงของโรค
ชั้นศิริ, ศิริรัตน์
นิวัฒเจริญชัยกุล, ปฐมาภรณ์
บทคัดย่อภาวะกระดูกขากรรไกรตายเป็นภาวะแทรกซ้อนที่มักพบจากสองสาเหตุหลักคือ การได้รับรังสีบำบัดมะเร็งบริเวณศีรษะและลำคอ และการใช้ยาบางกลุ่ม เช่น ยารักษาโรคกระดูกพรุน ยารักษาโรคมะเร็งบางชนิด แม้ว่าลักษณะทางคลินิกของรอยโรคทั้งสองนั้นคล้ายคลึงกันคือ พบกระดูกขากรรไกรโผล่โดยปราศจากเนื้อเยื่อปกคลุมแต่กระบวนการเกิดโรค การวินิจฉัย และการจัดการรอยโรคทั้งสองชนิดนี้มีความแตกต่างกันหลายประการบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบภาวะกระดูกขากรรไกรตายที่เกิดจากการได้รับรังสีบำบัดกับการใช้ยาในแง่ของกระบวนการเกิดโรค การวินิจฉัยและการจำแนกความรุนแรงของโรคคำสำคัญ: ภาวะกระดูกขากรรไกรตาย ภาวะกระดูกขากรรไกรตายเนื่องจากรังสี ภาวะกระดูกขากรรไกรตายเนื่องจากยา
ว.ทันต.มศว ปีที่ 15 ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 หน้า 125-137.SWU Dent J. 2022;15(2):125-137.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2022-07-01
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/14479
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 15 No. 2 (2022): Srinakharinwirot University Dental Journal (Online); 125-137
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/14479/11926
Copyright (c) 2022 Srinakharinwirot University Dental Journal
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/15114
2023-03-08T09:25:05Z
swudentj:Review+articles
การเปรียบเทียบการใช้ระเบียบวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์กับการวิเคราะห์ทางชีวกลศาสตร์ในห้องปฏิบัติการในการศัลยกรรมแก้ไขความผิดปกติของกระดูกขากรรไกร
ชัยประกิจ, ณฤษพร
พัชนี, สิริภัทรา
บุญศิริเศรษฐ, กำพล
สุนทรพรประภา, สรธร
คล้ายศิริ, อวิรุทธ์
ศัลยกรรมตัดกระดูกแบบไบแลตเทอรอลแซจิทอลสปลิต
การวิเคราะห์ทางชีวกลศาสตร์
ระเบียบวิธี ไฟไนต์เอลิเมนต์
ศัลยกรรมแก้ไขความผิดปกติของกระดูกขากรรไกร
Bilateral sagittal split osteotomy
Biomechanical analysis
Finite element analysis
Orthognathic surgery
การศัลยกรรมแก้ไขความผิดปกติของกระดูกขากรรไกร มีเทคนิคการศัลยกรรมตัดกระดูกที่หลากหลายและ พัฒนามาอย่างต่อเนื่องเป็นทศวรรษ การทำให้เกิดผลสำเร็จของการรักษา จำเป็นต้องมีเทคนิคที่มีความถูกต้องสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการหายของบาดแผลและลดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นภายหลังการรักษา ระเบียบวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ถูกนำมาใช้ในการศัลยกรรมช่องปากและกระดูกขากรรไกร เพื่อใช้ในการประเมินชีวกลศาสตร์บริเวณที่ทำการผ่าตัดกระดูกได้ ระเบียบวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์มีการใช้งานอย่างกว้างขวางสำหรับการประเมินความเค้นและความเครียดของแบบจำลองเสมือน เนื่องจากมีการใช้งานที่ง่ายและไม่เกิดการรุกรานต่อสิ่งทดลอง ในอีกมุมหนึ่งยังมีวิธีการวิเคราะห์ทางชีวกลศาสตร์ในห้องปฏิบัติการ ซึ่งได้ข้อมูลที่เป็นรูปธรรมและน่าเชื่อถือ แต่จะมีค่าใช้จ่ายและระยะเวลาทำที่มากกว่า วัตถุประสงค์ของบทความปริทัศน์นี้ คือการทบทวนวรรณกรรมและอภิปรายระหว่างสองวิธีของการวิเคราะห์ทางกลศาสตร์ในการศัลยกรรมแก้ไขความผิดปกติของกระดูกขากรรไกรล่างโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเน้นถึงประโยชน์และข้อจำกัดระหว่างการใช้ระเบียบวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์และการวิเคราะห์ชีวกลศาสตร์ในห้องปฏิบัติการในการศัลยกรรมแก้ไขความผิดปกติของกระดูกขากรรไกรได้
> ว.ทันต.มศว ปีที่ 16 ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2566 หน้า 164-175.
> SWU Dent J. 2023;16(1): 164-175.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2023-03-08
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/15114
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 16 No. 1 (2023): Srinakharinwirot University Dental Journal (Online) ; 164-175
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/15114/12319
Copyright (c) 2023 Srinakharinwirot University Dental Journal
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/15454
2024-01-23T08:09:02Z
swudentj:Review+articles
ยิ้มเห็นเหงือก: สาเหตุ การรักษา และการป้องกันการเกิดจากการ รักษาทางทันตกรรมจัดฟัน
เทียนชนะไชยา, ขนิษฐา
ถิระศุภะ, นีรนาท
ยิ้มเห็นเหงือก
ภาวะเห็นเหงือก
การรักษาแบบอำพราง
Gummy Smile
Gingival Display
Camouflage Treatment
ยิ้มเห็นเหงือก คือ รอยยิ้มที่เห็นเหงือกบนมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อความสวยงามและความมั่นใจของผู้ป่วย สาเหตุของยิ้มเห็นเหงือกสามารถแบ่งได้เป็น 2 สาเหตุหลัก คือ ปัจจัยของผู้ป่วยและปัจจัยจากการรักษาทันตกรรมจัดฟัน เช่น กลไกการดึงฟัน หรือการดึงยางระหว่างขากรรไกร การรักษายิ้มเห็นเหงือกสามารถทำได้โดยการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร หรือการจัดฟันเพื่อแก้ไขหรืออำพรางยิ้มเห็นเหงือกด้วยเครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้แบบใสหรือเครื่องมือจัดฟันชนิดติดแน่น ขึ้นอยู่กับสาเหตุของความผิดปกติและความคาดหวังของผลลัพธ์ในผู้ป่วยแต่ละรายการเคลื่อนฟันทางทันตกรรมจัดฟันโดยไม่มีการวางแผนที่ดีพอสามารถทำให้เกิดยิ้มเห็นเหงือกเพิ่มขึ้น เป็นผลให้ความสวยงามของใบหน้าไม่เป็นที่พึงประสงค์ ดังนั้นในบทความนี้จึงมีการกล่าวถึงสาเหตุและกลไกที่ทำให้เกิดภาวะเห็นเหงือกเพิ่มขึ้น รวมทั้งการป้องกันการเกิดยิ้มเห็นเหงือกจากการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน
[Gummy smile is the smile showing excessive gingival display which has an effect on patients’ esthetics and self-confidence. Its etiology is divided into 2 major groups: patient factor and orthodontic treatment factor, such as improper mechanics of anterior teeth retraction or intermaxillary elastic traction. Gummy smile can be treated by either orthodontic treatment combined with orthognathic surgery or camouflage treatment such as clear aligner appliance or fixed appliance depending on the etiology and patients’ expectation. Unwell planned orthodontic tooth movement is able to increase gingival display at smile which aggravates facial esthetics. Therefore, the orthodontists should pay special attention to etiology and mechanics affecting the gingival display and the avoidance of gummy smile owing to orthodontic treatment.]
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2023-09-13
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/15454
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 16 No. 2 (2023): Srinakharinwirot University Dental Journal (Online); 147-159
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/15454/12532
Copyright (c) 2023 Srinakharinwirot University Dental Journal
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/15455
2024-01-23T08:09:02Z
swudentj:Review+articles
Review Articles: A Focus on Gene-Related Tooth Development
Ampawa, Nuthamol
Ampa, Ranida
Rotpenpian, Nattapon
Tooth development
Gene
Dental mesenchyme
Morphogenesis
Teeth
Human teeth are vertebrate-specific structures involving many genes interacting in their development, which can lead to anomalies occurring in the disturbance of these genes expression. There is little summarized knowledge of gene related tooth development, therefore, this article reviewed these genes during tooth development. Tooth development stages can be classified as initiation, proliferation and morphogenesis, cell differentiation, hard tissue genesis, and root formation. In the initiation stage of tooth development, there are LIM homobox genes such as Lhx6 and Lhx7 of activated mesenchymal cells at the oral region and Dlx1-7 develop at the inter-arch within the brachial region. Also, in this stage, Fgf8, Barx1, and Dlx2 are expressed proximally overlying the presumptive molar field. BMP4 regulates the expression of MSX1 and MSX 2 which are expressed distally overlying the presumptive incisor filed. The Lymphoid Enhancer-binding factor (Lef1) fromdental mesenchyme activates cell proliferation, morphogenesis, and cytodifferentiation until dentalpapilla and Sonic hedgehog (Shh) form. All of the proposed genes above cause tooth developmentin the oral cavity.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2023-09-13
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/15455
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 16 No. 2 (2023): Srinakharinwirot University Dental Journal (Online); 160-169
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/15455/12533
Copyright (c) 2023 Srinakharinwirot University Dental Journal
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
oai:ojs.ejournals.swu.ac.th:article/16000
2024-02-22T04:03:56Z
swudentj:Review+articles
การปรับปรุงพื้นผิวไทเทเนียมและโลหะผสมไทเทเนียมด้วยการแอโนไดเซชัน: ทบทวนวรรณกรรม: Improvement Properties of Titanium and Titanium Alloy Surface with Anodization: Literature review
ปาคำมา, สุภัทชา
กุลติยะรัตนะ, ทัชชกร
ยาวิราช, อภิชัย
รังสิยากูล, พิมพ์เดือน
ชัยจรีนนท์, พิสัยศิษฏ์
แอโนไดเซชัน
แอโนไดเซชันไทเทเนียม
ไทเทเนียม
anodization
anodization titanium
titanium
บทความปริทัศน์นี้ ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวกับผลของปัจจัยตัวแปรเสริมของการแอโนไดเซชันต่อลักษณะสัณฐานพื้นผิวของไทเทเนียม โดยศึกษาสารละลายอิเล็กโทรไลต์ ความต่างศักย์ อุณหภูมิ และระยะเวลา จากการทบทวนวรรณกรรม พบว่า การใช้ค่าความต่างศักย์ต่ำกว่า 40 โวลต์ ที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส ในสารละลายอิเล็กโทรไลต์ที่มีความหนาแน่นของกระแสไฟฟ้า 20 มิลลิแอมแปร์ต่อตารางเซนติเมตร ที่ระยะเวลามากกว่า 20 นาที ทำให้อัตราการเกิดชั้นออกไซด์ได้ดีที่สุด เกิดรูพรุนขนาดเล็กกระจายตัวอยู่บนชั้นฟิล์มของไทเทเนียม ทำให้ต้านทานการกัดกร่อนได้ดี เมื่อส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราดจากด้านบนมีลักษณะพื้นผิวที่เรียบเป็นเนื้อเดียวกัน และมีความเสถียรภาพ ส่งผลให้เกิดการเชื่อมประสานระหว่างกระดูกและรากฟันเทียมดีขึ้น นอกจากนี้การหักเหของแสงที่ความหนาของชั้นออกไซด์แตกต่างกันทำให้เกิดสีของไทเทเนียมออกไซด์ที่ต่างกัน ในงานทันตกรรมรากฟันเทียมแอโนไดซ์ไทเทเนียมสีเหลืองและสีชมพูนิยมใช้ในบริเวณที่ต้องการความสวยงาม อย่างไรก็ตามการแอโนไดเซชันในทางทันตกรรมยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้คุณสมบัติด้านความสวยงามและการยึดติดที่มีประสิทธิภาพต่อไป The purpose of this article was to conduct a literature review regarding the effect of anodization parameters on the surface characteristics of titanium including electrolyte solution, potential difference, temperature and duration. From the review of the literature, it was found that applying a potential difference of less than 40 V at a temperature of 40 °C in an electrolyte solution with an electric current density of 20 mA/cm2 for more than 20 minutes caused the best oxide formation rate. Small pores were distributed on the titanium film, making it resistant to corrosion well. When viewed from above in scanning electron microscopy, the surface was smooth, homogeneous and stable, resulting in better interface between the bone and the implant. In addition, the light refraction at different thicknesses of the oxide layer caused different colors of titanium oxide. Thus, in dental implants, yellow and pink anodized titanium are commonly used for beauty produces area. However, anodization in dentistry continues to evolve in order to achieve effective aesthetic and bonding properties.
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2024-02-22
info:eu-repo/semantics/article
info:eu-repo/semantics/publishedVersion
application/pdf
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/16000
Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811); Vol. 17 No. 1 (2024): Srinakharinwirot University Dental Journal (Online); 151-167
2774-0811
1905-0488
eng
http://ejournals.swu.ac.th/index.php/swudentj/article/view/16000/12783
Copyright (c) 2024 Srinakharinwirot University Dental Journal (E-ISSN 2774-0811)
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0